คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นกะประเด็นไว้ โจทก์จำเลยมิได้คัดค้านว่าประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนด ไม่ถูกต้องแต่ประการใด จึงต้องเป็นไปตามนั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326 เพียงแต่บัญญัติว่าเมื่อมีการชำระหนี้กัน ผู้ชำระหนี้มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ออกใบเสร็จให้เท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับโดยเด็ดขาดว่า เมื่อชำระหนี้กันแล้วจะต้องออกใบเสร็จให้ทุกกรณีจึงจะรับฟังเป็นหลักฐานได้เสมอไปไม่
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ชำระค่าวัสดุที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้แก่โจทก์โดยรวมอยู่กับจำนวนเงินที่ได้จ่ายให้โจทก์รับไปแล้วนั้น และจำเลยได้จ่ายเงินเกินกว่าค่าวัสดุที่โจทก์เรียกร้อง ดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ศาลจะพิพากษาคิดหักเงินให้จำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยค้างชำระค่าวัสดุก่อสร้างที่โจทก์หามาก่อสร้างอาคารให้แก่จำเลย โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระ จำเลยก็ไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่า โจทก์ได้เบิกเอาเงินที่ค้างไปจากจำเลยแล้วโดยรวมอยู่ในจำนวนเงินที่โจทก์ได้รับไปจากจำเลย โจทก์ก่อสร้างไม่เสร็จตามแบบแปลน จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าจ้างแรงงานเต็มตามสัญญา

ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้คู่ความนำสืบว่า โจทก์ก่อสร้างเสร็จตามสัญญาหรือไม่ถ้าไม่เสร็จ โจทก์ควรมีสิทธิรับเงินค่าจ้างแรงงานเท่าใด คู่ความแถลงไม่สืบพยาน นอกจากพยานผู้มีความรู้ทางช่างฝ่ายละคน ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ทำการก่อสร้างอาคารยังไม่แล้วเสร็จ ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างแรงงานเต็มตามสัญญาพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นได้กะประเด็นไว้ว่า โจทก์ก่อสร้างมัสยิดดูกูเสร็จตามสัญญาหรือไม่ ถ้าไม่เสร็จโจทก์ควรมีสิทธิรับเงินค่าจ้างแรงงานเท่าใด เงินค่าวัสดุก่อสร้างที่โจทก์ฟ้องนี้ จำเลยก็ว่าได้จ่ายให้โจทก์แล้ว รวมอยู่ในจำนวนเงิน 83,900 บาท ที่โจทก์รับไปนั้น ถ้าหากฟังว่าโจทก์ควรได้ค่าแรงงานเท่าใดก็ให้คิดหักจากเงินจำนวนนั้นโจทก์จำเลยมิได้คัดค้านว่าประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไม่ถูกต้องแต่ประการใด จึงต้องเป็นไปตามนั้น โจทก์ได้รับเงินจากจำเลยเกินไปแล้วจะมาฟ้องให้จำเลยชำระอีกไม่ได้ ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่มีเอกสารมาแสดงว่าได้ชำระค่าวัสดุก่อสร้างให้โจทก์ ถือได้ว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์นั้น เห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326 เพียงแต่บัญญัติว่า เมื่อมีการชำระหนี้กัน ผู้ชำระหนี้มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ออกใบเสร็จให้เท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับโดยเด็ดขาดว่า เมื่อชำระหนี้กันแล้วจะต้องออกใบเสร็จให้ทุกกรณี จึงจะรับฟังเป็นหลักฐานได้เสมอไปไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่า หนี้ที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาก่อสร้างเป็นหนี้ที่ยังไม่แน่นอนว่าจำนวนสุทธิเท่าใด ทั้งจำเลยยังมิได้เรียกร้องหรือฟ้องแย้งขึ้นมา จึงไม่มีประเด็นที่จะยกมาหักกลบลบหนี้กันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 นั้น เห็นว่า กรณีนี้เป็นเรื่องสัญญาจ้างทำของรายเดียว ที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ในค่าจ้างและค่าวัสดุที่โจทก์ออกเงินจัดหาแทนจำเลยไปก่อน จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระเงินเกินกว่าค่าวัสดุที่โจทก์เรียกร้อง ข้อต่อสู้ของจำเลยหาใช่การแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้โดยที่โจทก์จำเลยต่างกลับกันเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ต่างรายกันดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 นั้นไม่หากเป็นการที่จำเลยต่อสู้ว่า ได้ชำระหนี้แก่โจทก์เกินไปกว่าที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์เท่านั้นคดีไม่มีปัญหาเรื่องหักกลบลบหนี้ดังที่โจทก์ฎีกา ที่ศาลล่างพิพากษาคิดหักเงินให้จำเลย จึงเป็นการชอบ

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share