คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1129 วรรคสาม จะนำมาใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกไม่ได้จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น เมื่อจำเลยยังไม่ได้จดแจ้งการรับโอนหุ้นของโจทก์ทั้งสองลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น จึงไม่ถือว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิที่จะเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1176 และไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมดังกล่าว การประชุมวิสามัญเป็นการประชุมใหญ่ครั้งอื่นนอกจากการประชุมสามัญที่กฎหมายกำหนดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นทั่วไปอย่างน้อยครั้งหนึ่งทุกระยะเวลาสิบสองเดือน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1171 ซึ่งการประชุมวิสามัญโดยปกติจะเป็นเรื่องรีบด่วนสำคัญที่ต้องให้ที่ประชุมใหญ่วินิจฉัย ไม่อาจรอจนกว่าจะมีการประชุมสามัญได้และผู้ถือหุ้นอาจต้องออกเสียงลงมติดังเช่นในกรณีเพิ่มทุนและลดทุนของจำเลยนี้ หากไม่มีการพักการโอนหุ้นก็อาจมีปัญหาในการตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าประชุมและผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ที่ประชุมกรรมการจำเลยจึงมีมติให้ปิดสมุดพักการโอนหุ้นได้ไม่ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย จำเลยได้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2529 และครั้งที่ 3/2529เพื่อพิจารณาและมีมติพิเศษลดทุนจดทะเบียนโดยการลดมูลค่าหุ้นและเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยอ้างเหตุผลว่าตามงบดุลของบริษัท ณ สิ้นปี2528 มีผลขาดทุนสะสม 38,800,000 บาทและเพื่อให้บริษัทมีเงินกองทุนมากเพียงพอที่จะหารายได้มาชดเชยความเสียหายของลูกหนี้ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติพิเศษให้ดำเนินการดังกล่าวได้แต่มติของที่ประชุมทั้งสองครั้งไม่ชอบด้วยกฎหมายคือ จำเลยไม่ยอมให้โจทก์ทั้งสองเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว นอกจากนี้จำเลยมิได้ขาดทุนและเงินกองทุนของจำเลยมิได้ลดลงเหลือไม่เป็นกึ่งหนึ่งของทุนซึ่งชำระแล้ว ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยครั้งที่ 2/2529 และครั้งที่ 3/2529
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า โจทก์ทั้งสองไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นของจำเลยอยู่ก่อนหรือในขณะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่2/2529 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2529 โดยจำเลยได้มีคำสั่งให้ปิดสมุดทะเบียนโอนหุ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2529 โจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิเข้าประชุมและขอให้จดแจ้งการโอนหุ้นให้วันประชุม การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยทั้งสองครั้งจึงชอบด้วยกฎหมายงบกำไรขาดทุนและงบการเงินของจำเลยได้ทำขึ้นโดยถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “หุ้นของโจทก์ทั้งสองเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรคสาม การโอนจะนำมาใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกไม่ได้จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าในวันประชุมสามัญครั้งที่ 2/2529 จำเลยยังไม่ได้จดแจ้งการรับโอนหุ้นของโจทก์ทั้งสองลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นโดยจำเลยปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 11/2529 เพื่อจะเรียกประชุมวิสามัญซึ่งกรรมการต้องดำเนินการตามกฎหมาย โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีสิทธิที่จะเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1176ที่โจทก์ทั้งสองอ้างว่าจำเลยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นได้เฉพาะกรณีประชุมใหญ่สามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1131นั้น เห็นว่า การประชุมวิสามัญเป็นการประชุมใหญ่ครั้งอื่นนอกจากการประชุมสามัญที่กฎหมายกำหนดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นทั่วไปอย่างน้อยครั้งหนึ่งทุกระยะเวลาสิบสองเดือน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1171 ซึ่งการประชุมวิสามัญโดยปกติจะเป็นเรื่องรีบด่วนสำคัญที่ต้องให้ที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยไม่อาจรอจนกว่าจะมีการประชุมสามัญได้และผู้ถือหุ้นอาจต้องออกเสียงลงมติดังเช่นในกรณีเพิ่มทุนและลดทุนของจำเลยนี้หากไม่มีการพักการโอนหุ้นก็อาจมีปัญหาในการตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าประชุมและผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ที่ประชุมกรรมการจำเลยมีมติให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นจึงชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ทั้งสองข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนมติที่ประชุมวิสามัญครั้งที่ 2/2529 และครั้งที่ 3/2529 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้นเห็นว่า ในการประชุมวิสามัญครั้งที่ 2/2529 โจทก์ทั้งสองยังไม่เป็นผู้ถือหุ้นที่ได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นตามที่ได้วินิจฉัยข้างต้น การโอนหุ้นของโจทก์ทั้งสองจึงนำมาใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกไม่ได้ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1129 วรรคสาม จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมครั้งนี้ ส่วนการประชุมวิสามัญครั้งที่ 3/2529 เป็นเพียงการลงมติรับรองมติของที่ประชุมวิสามัญครั้งที่ 2/2529 เป็นมติพิเศษซึ่งโจทก์ทั้งสองมิได้กล่าวอ้างว่ามีการนัดเรียกหรือประชุมหรือลงมติฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับของบริษัทอย่างไร โจทก์ทั้งสองจะอ้างว่าจำเลยทำงบดุลและงบกำไรขาดทุนไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงอันเป็นเรื่องที่ได้พิจารณากันในการประชุมครั้งก่อนมา ขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมครั้งนี้ไม่ได้เช่นกันกรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่ามติของที่ประชุมทั้งสองครั้งชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น อนึ่ง คดีนี้เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งตาราง 6ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง บัญญัติให้ศาลกำหนดค่าทนายความอัตราขั้นสูงในศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาไม่เกิน 1,500 บาท ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้โจทก์ทั้งสองร่วมกันใช้แทนจำเลย 2,000 บาท เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด แม้โจทก์ทั้งสองมิได้ฎีกาในปัญหาข้อนี้ ศาลฎีกาย่อมมีกำหนดใหม่ให้ถูกต้องได้
พิพากษายืน

Share