แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยขัดคำสั่งของพนักงานสอบสวน ไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลยลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีผิด พ.ร.บ.ยาสูบ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 334 (2) เพียงเท่านี้ ยังไม่พอจะให้เข้าใจว่าเป็นการสั่งให้จำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบเรื่องเคยต้องโทษหรือว่าเพื่อประโยชน์แห่งการสอบสวนหลักฐานอันเป็นข้อสาระสำคัญ ที่จะแสดงว่า ได้สั่งตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 132 ฉะนั้นจึงยังลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๙๓ เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจขัดขืนไม่กระทำตามคำสั่งหรือบังคับอันชอบด้วยกฎหมายที่เจ้าพนักงานได้สั่งแก่จำเลย กล่าวคือนายกมล สาควิชานนท์พนักงานสอบสวนอำเภอเกษตรสมบูรณ์ได้สั่งให้จำเลยยอมให้พิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลยลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีผิด พ.ร.บ.ยาสูบ และขัดคำสั่งของเจ้าพนักงานตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่จำเลยบังอาจขัดขืนเสีย ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๓๔ (๒)
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๑ บัญญัติไว้ว่าให้เจ้าพนักงานบันทึกหรือรายงานเหตุไว้ ซึ่งเป็นทางแก้อยู่แล้ว ไม่เป็นความผิดตามข้อหา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่า การให้จำเลยลงลายพิมพ์นิ้วมือก็เพื่อจะตรวจสอบว่าเคยต้องโทษหรือไม่ เป็นการสั่งตามป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๓๑,๑๓๒
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามฟ้องไม่มีความว่า ” คำสั่งเพื่อประโยชน์แห่งการรวบรวมหลักฐาน ” จึงจะให้เข้าใจดังอุทธรณ์ไม่ได้ คงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้องยังไม่พอจะให้เข้าใจว่า เป็นการสั่งให้จำเลยลายพิมพ์นิ้วมือ เพื่อตรวจสอบเรื่องเคยต้องโทษ หรือว่าเพื่อประโยชน์แห่งการรวบรวมหลักฐาน อันเป็นข้อสาระสำคัญที่จะแสดงว่าได้สั่งตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๓๒ คำว่าแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือตามคำฟ้องไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าแผ่นกระดาษใช้เพื่อการอะไร ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน