แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและกักกันข้าวนั้น การที่จำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯหรือไม่ ย่อมเป็นองค์ความผิดอยู่ด้วย ฉะนั้นในฟ้องจะต้องกล่าวไว้ด้วยว่าจำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯนั้นแล้วและได้ประพฤติฝ่าฝืนโดยประกาศใดมิฉะนั้นจะเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิด ไม่ชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา ไม่มีกฎหมายสนับสนุนหรือให้อำนาจให้มีผลเสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึ่งปฏิเสธไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1176/2492)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบังอาจสมคบกันขนย้ายข้าวสารออกนอกเขตจังหวัดราชบุรี อันเป็นเขตห้ามขนย้ายข้าวตามประกาศของคณะกรรมการสำรวจและกักกันข้าวฉะบับที่ ๔๖/๒๔๙๑ โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว ๒๔๘๙
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อกฎหมายว่า คดีลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะประกาศของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ไม่ใช่กฎหมาย โจทก์ไม่ได้ส่งอ้างเป็นพยานประกอบสำนวนให้แน่ชัดฟังไม่ได้ว่า ประกาศออกโดยอาศัยอำนาจกฎหมายฉะบับใด
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในกรณีเช่นนี้ การที่จำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯ หรือไม่ย่อมเป็นองค์ความผิดอยู่ด้วย แต่ฟ้องโจทก์ไม่มีกล่าวว่าจำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯนั้นแล้วและได้ประพฤติฝ่าฝืนแต่ประการใด นับว่าเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิด ไม่ชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘(๕) ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธว่า มิได้กระทำผิด มิได้รับว่าได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯแล้ว เช่นนี้ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบความข้อนี้ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบ ก็จะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ แม้ประกาศของคณะกรรมการ ฯลฯ ที่กล่าวนี้จะได้ทราบประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ก็เป็นประกาศธรรมดา ไม่มีกฎหมายสนับสนุน หรือให้อำนาจให้มีผล เสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึงปฏิเสธไม่ได้ เรื่องทำนองนี้ได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๗๖/++ วินิจฉัยเป็นบันทัดฐานไว้แล้ว จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยไป