แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27, 29, 31 ศาลชั้นต้นได้ประกาศหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายเพื่อให้บุคคลซึ่งอาจเป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าวยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องขอให้ริบทรัพย์สินเข้ามาในคดีแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดยื่นคำร้องคัดค้านเข้ามารวมทั้งจำเลยที่ 2 ด้วย ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านเข้ามาในคดีจึงมิใช่คู่ความ ไม่อาจยื่นอุทธรณ์และฎีกาต่อมาได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และฎีกาในส่วนนี้และศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยในปัญหานี้ให้นั้น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพย์สินทรัพย์เงินสด 15,000 บาท โทรทัศน์สียี่ห้อซัมซุงขนาด 21 นิ้ว 1 เครื่อง เครื่องเล่นวีซีดียี่ห้อโซเก้น 1 เครื่อง ลำโพงยี่ห้อ ACONATIC 1 คู่ เครื่องเสียงติดรถยนต์ยี่ห้อ MARRIOLA 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อคอมแพค 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า หมายเลขทะเบียน ขรท นครศรีธรรมราช 393 จำนวน 1 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บย 573 นครศรีธรรมราช 1 คัน สร้อยคอทองคำลายโซ่หนัก 15.2 กรัม 1 เส้น สร้อยคอทองคำลายห่วงคู่หนัก 30.4 กรัม 1 เส้น แหวนทองลายมังกรหนัก 7.6 กรัม 1 วง ตะกรุดทองหนัก 4.6 กรัม 1 อัน และอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารออมสิน สาขาตลาดหัวอิฐ เลขที่ 08-6012-20-030057-2 ชื่อบัญชี นางจันจิรา พร้อมดอกเบี้ย รวม 13 รายการ ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3, 15, 22, 27, 29, 31
ศาลชั้นต้นได้สั่งให้ประกาศในหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยึดเงินสด 15,000 บาท โทรทัศน์สียี่ห้อซัมซุงขนาด 21 นิ้ว 1 เครื่อง เครื่องเล่นวีซีดียี่ห้อโซเก้น 1 เครื่อง ลำโพงยี่ห้อ ACONATIC 1 คู่ เครื่องเสียงติดรถยนต์ยี่ห้อ MARRIOLA 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อคอมแพค 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า หมายเลขทะเบียน ขรท นครศรีธรรมราช 393 จำนวน 1 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บย 573 นครศรีธรรมราช 1 คัน สร้อยคอทองคำลายโซ่หนัก 15.2 กรัม 1 เส้น สร้อยคอทองคำลายห่วงคู่หนัก 30.4 กรัม 1 เส้น แหวนทองลายมังกรหนัก 7.6 กรัม 1 วง ตะกรุดทองหนัก 4.6 กรัม 1 อัน และอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารออมสิน สาขาตลาดหัวอิฐ เลขที่ 08-6012-20-030057-2 ชื่อบัญชี นางจันจิรา ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27, 28, 29, 31
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจวินิจฉัยว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองรวม 13 รายการ ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27, 29, 31 ศาลชั้นต้นได้ประกาศหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายเพื่อให้บุคคลซึ่งอาจอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องขอให้ริบทรัพย์สินเข้ามาในคดีแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดยื่นคำร้องคัดค้านเข้ามารวมทั้งจำเลยที่ 2 ด้วย ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินทั้ง 13 รายการดังกล่าวให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านเข้ามาในคดี จึงมิใช่คู่ความ ไม่อาจยื่นอุทธรณ์และฎีกาต่อมาได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และฎีกาในส่วนนี้และศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยในปัญหานี้ให้นั้น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 2
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 และยกฎีกาของจำเลยที่ 2