คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีความผิดอาญาแผ่นดินที่ราษฎรเป็นโจทก์ จำเลยฎีกา ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์ถึงแก่กรรม นั้นก็ไม่เป็นเหตุขัดข้องแก่การดำเนินคดีต่อไป ถือได้ว่าโจทก์ได้ฟ้องร้องแทนแผ่นดิน ฉะนั้น ศาลฎีกาจึงทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2504)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีมีดเป็นอาวุธ ได้บังอาจใช้กำลังกายและมือเข้ากอดคอนายเปรียงบุตรชายโจทก์ทางข้างหลัง แล้วจำเลยใช้มีดแทงนายเปรียงถูกตามร่างกายหลายแห่ง โดยความไตร่ตรองไว้ก่อนและนายเปรียงได้ถึงแก่ความตายด้วยพิษบาดแผลในคืนเกิดเหตุ ขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านายเปรียงถูกจำเลยแทงตาย เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ให้จำคุกจำเลย 3 ปีคำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษ1 ใน 3 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี และให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดห้าปี

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 18 ปี ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ปรานีลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุกจำเลย 12 ปี

จำเลยฎีกา แต่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่นายช่วงโจทก์ไม่ได้ เพราะนายช่วงถึงแก่กรรมไปเสียแล้ว

มีปัญหาข้อกฎหมายที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวินิจฉัยไว้ว่า คดีนี้การที่โจทก์ฟ้องคดีถือได้ว่าโจทก์ฟ้องร้องแทนแผ่นดิน อีกประการหนึ่งคดีนี้เป็นคดีความผิดอาญา ไม่ใช่ประเภทอันยอมความได้ โจทก์จึงไม่อาจถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความในชั้นฎีกาได้อย่างความผิดประเภทที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่ายอมความได้ และในชั้นนี้โจทก์ก็หาจำเป็นต้องดำเนินการสำหรับการพิจารณาของศาลอย่างใดอีกไม่ฉะนั้น แม้โจทก์ถึงแก่กรรมไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุขัดข้องแก่การดำเนินคดีต่อไป ศาลฎีกาพึงทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปได้

พิพากษายืน

Share