แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกายและทำให้โจทก์เสื่อมอิสสระภาพในวันเวลาเดียวกัน ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยคนเดียวฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ และยกฟ้องปล่อยจำเลยคืน โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยอื่นตามฟ้อง ส่วนจำเลยคนที่ถูกลงโทษก็อุทธรณ์ขอให้ปล่อย ศาลอุทธรณ์เห็นว่าวันที่หาว่ากระทำผิดได้ความไม่ตรงกับฟ้อง จึงพิพากษาให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยที่อุทธรณ์ไปโดยไม่พิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์ ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าความผิดทั้ง 2 ฐานที่กล่าวหาว่ากระทำผิดก็เป็นวันเดียวกัน ถ้าตามทางพิจารณาในเรื่องวันกระทำผิดได้ความแตกต่างกับฟ้องแล้ว ถึงอย่างไรศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 หากเป็นเช่นนั้น คดีของโจทก์ก็ไม่จำเป็นที่ศาลจะย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งสามสมคบกันทำร้ายร่างกายและทำให้โจทก์เสื่อมเสียอิสสระภาพ ขอให้ลงโทษจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๗๐ จำคุก ๓ เดือน ยกฟ้องปล่อยจำเลยที่ ๒-๓
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานทำร้ายร่างกาย และลงโทษจำเลยที่ ๒-๓ ฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพด้วย ส่วนจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ว่าไม่ได้กระทำผิดและว่าโจทก์ฟ้องผิดวัน
ศาลอุทธรณ์คงพิจารณาแต่ฉะเพาะอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑ เห็นว่าพยานโจทก์เบิกความไขว้เขวและวันที่หาว่าจำเลยกระทำผิด ก็ไม่ตรงกับฟ้องจึงพิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยที่ ๑ ไป
โจทก์ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของโจทก์กับฎีกาคัดค้านในข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่ลงโทษ จำเลยที่ ๑ ฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรระภาพ
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้ปรากฎว่ามีประเด็นโต้เถียงกันอยู่ในเรื่องวันกระทำผิดที่โจทก์หาว่าต่างกับที่ปรากฎตามทางพิจารณาหรือไม่และประกับกับข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ และฐานทำร้ายร่างกายที่โจทก์หานี้และวันที่หาว่าจำเลยกระทำผิดก็เป็นเรื่องวันเดียวกัน ดังนั้นถ้าตามทางพิจารณาในเรื่องวันกระทำผิดแตกต่างกับฟ้องแล้ว ถึงอย่างไรศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๙๒ หากเป็นเช่นนั้นแล้วคดีโจทก์ก็ไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ต่อไป
ศาลฎีกาได้พิจารณาคำพยานหลักฐานในเรื่องนี้แล้ว เห็นว่าโจทก์ถูกจับจองจำและที่หาว่าจำเลยทำร้ายนั้นเป็นวันที่๒๗ เมษายน ๒๔๙๑ หาใช่วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๙๑ ดังฟ้องไม่ คดีจึงยังลงโทษจำเลยไม่ได้
จึงพิพากษายืน ให้ยกฟ้อง