แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ตั้ง ส. ทนายความผู้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยโดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ส. มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลย จำเลยได้รับแล้วไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอาการบอกกล่าวบังคับจำนองของ ส. ถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นตัวการได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำของ ส. ซึ่งเป็นตัวแทนที่บอกกล่าวบังคับจำนองตามป.พ.พ. มาตรา 823 ดังนี้ ถือว่าโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยโดยชอบแล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 897,150.68 บาท และดอกเบี้ยแก่โจทก์หากจำเลยไม่ชำระให้ยึดทรัพย์สินที่จำนองขายทอดตลาด และถ้าได้เงินไม่ครบให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ
จำเลยให้การว่า หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินและจำนองที่ดินตามฟ้องจริง แต่จำเลยได้รับเงินกู้เพียง 100,000 บาท หนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 16 ต่อปี นับแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2524 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ (แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องไม่เกิน 397,150.68 บาท) หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาด ถ้าได้เงินชำระหนี้ไม่ครบให้ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์จนครบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยกู้เงินโจทก์โดยนำที่ดินโฉนดเลขที่ 8460, 8461 ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มาจำนองไว้เป็นประกันเงินกู้ครบกำหนดตามสัญญากู้แล้ว จำเลยไม่ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลย ปรากฏตามหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองเอกสารหมาย จ.8จำเลยได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองชอบหรือไม่ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การที่นายสว่าง ตั้งนิสัยตรงทนายความผู้รับมอบอำนาจมีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยจำเลยได้รับแล้วไม่ชำระหนี้แก่โจทก์โจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง นั้นแสดงว่าโจทก์ยอมรับเอาการบอกกล่าวบังคับจำนองของนายสว่างแล้วถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นตัวการได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำของนายสว่างซึ่งเป็นตัวแทนที่บอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว แม้จะฟังตามที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ตั้งนายสว่างทนายความผู้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนบอกกล่าวบังคับจำนองไม่ได้ทำเป็นหนังสือไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ให้สัตยาบันแก่การกระทำของนายสว่างดังกล่าวแล้ว ย่อมถือได้ว่านายสว่างเป็นตัวแทนของโจทก์โดยชอบตามมาตรา 823 ซึ่งการตั้งตัวแทนลักษณะเช่นนี้ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ คดีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าเอกสารหมาย จ.14 ที่โจทก์ตั้งนายสว่างเป็นตัวแทนบอกกล่าวบังคับจำนองได้กระทำขึ้นโดยชอบหรือไม่ และไม่ต้องวินิจฉัยว่าเอกสารหมาย จ.14 ติดอากรแสตมป์โดยชอบหรือไม่ คดีฟังได้ว่า โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยโดยชอบแล้ว เทียบได้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 2427/2518 ระหว่างนางจิบ แจงบำรุง โจทก์ นายฉลอง เปี่ยมญาติ จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 2551/2524 ระหว่างนายภูพัฒน์ ปาวา โจทก์ นายสังวาลย์กลิ่นหอม จำเลย ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยโดยชอบแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน.