แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายทำพินัยกรรม์ยกที่ดินให้เด็ก และตั้งบิดาของเด็กเป็นผู้จัดการมฤดก
บิดาลงชื่อในโฉนดในฐานะผู้จัดการมฤดกแล้วโอนขายที่ดินนั้นมห้แก่บุคคลภายนอกซึ่งรับโอนทางทะเบียนไปโดยสุจริต ดังนี้เด็กย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจกรรมทั้งหลายอนผู้จัดการมฤดกได้ทำไปภายในขอบอำนาจในฐานะที่เป็นผู้จัดการมฤดก เด็กจะนำมาฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนไม่ได้.
ย่อยาว
ความว่า เดิมที่ดินในโฉนดที่ ๕๕๓๘ มีชื่อนายเล็กถือกรรมสิทธินายเล็กทำพินัยกรรม์ยกให้เป็นสิทธิแก่บุตรนายอรุณ และในระหว่างบุตรนายอรุณยังเยาว์วัย ให้นายอรุณเป็นผู้จัดการมฤดกส่วนของบุตรเมื่อนายเล็กตายลงแล้ว นายอรุณในหน้าที่ผู้จัดการมฤดกนายเล็กได้แบ่งขายที่ให้แก่จำเลยที่ ๑ โดยแยกเป็นโฉนดใหม่ แล้วจำเลยที่ ๑ ขายให้แก่จำเลยที่ ๒ ต่อมานายอรุณถึงแก่ความตาย โจทก์ผู้เป็นบุตรได้ฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดที่พิพาทระหว่างนายอรุณและจำเลยที่ ๑ และการโอนระหว่างจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ นั้นเสีย แล้วมอบโฉนดคืนให้แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายอรุณโอนขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ ๑ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล นิติกรรมที่นายอรุณทำไปจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม. ๑๕๔๖ ผู้รับมอบไม่ได้กรรมสิทธิ และการโอนระหว่างจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ก็ไม่สมบูรณ์ ทั้งจำเลยปกครองที่พิพาททางปรปักษ์ไม่ถึง ๑๐ ปี ไม่ได้สิทธิ พิพากษาให้จำเลยจัดการที่ดินให้เป็นไปตามเดิม ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า ตามที่ฟ้องโจทก์รับวานายอรุณเป็นผู้จัดการมฤดกรายนี้ ตาม มาตรา ๑๗๒๔ิ ป.ม.แพ่งฯทายาทย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจกรรมทั้งหลายอันผู้จัดการมฤดกได้ทำไปภายในขอบอำนาจ และมีมาตรา ๑๗๓๖ กับ ๑๗๔๐ บัญญัติให้ผู้จัดการมีสิทธิขายทรัพย์มฤดกได้ ดงระบุไว้ การที่นายอรุณขายทรัพย์มฤดกรายนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในภายในขอบอำนาจของผู้จัดการมฤดก และตามทำให้การของจำเลยก็ต่อสู้ชัดว่าได้รับซื้อที่รายพิพาทไว้โดยสุจริต โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนคดีนี้ไม่ใช่เรื่องผู้ปกครองขายทรัพย์ของเด็ก แต่เป็นเรื่องผู้จัดการมฤดกขายทรัพย์มฤดก จึงนำมาตรา ๑๕๔๖ มาปรับไม่ได้.
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง