คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2560

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 ที่ระบุว่า โจทก์โดย อ. ได้มอบอำนาจให้ พ. เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนโจทก์และให้มีอำนาจมอบอำนาจช่วงได้ แม้ภายหลังจากจำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ เอกสารหมาย จ.3 ลงลายมือชื่อ อ. กรรมการโจทก์เพียงคนเดียวไม่มีผลผูกพันโจทก์ โจทก์จะทำหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 ที่ระบุว่า โจทก์โดย จ. มอบอำนาจให้ อ. เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนโจทก์และให้มีอำนาจมอบอำนาจช่วงได้ก็ตาม แต่ อ. กรรมการโจทก์เพียงคนเดียวไม่มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ เมื่อขณะโจทก์ฟ้องคดีนี้โจทก์มีเพียงหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 เท่านั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 270,101.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะร่วมกันหรือแทนกันชำระให้แก่โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องว่า โจทก์มีฐานะเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด
มีนางจำเนียรลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญบริษัท มีอำนาจกระทำการผูกพันบริษัทโจทก์ได้ และ
ในการดำเนินคดีนี้โจทก์โดยนางจำเนียรมอบอำนาจให้นางอรสาเป็นผู้รับมอบอำนาจดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสอง รวมทั้งให้มีอำนาจมอบอำนาจช่วงได้ โดยในการดำเนินคดีนี้นางอรสามอบอำนาจช่วงให้นางสาวพิศมัย เป็นผู้รับมอบอำนาจในการฟ้องร้องและดำเนินคดีแทนโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การเพิ่มเติมว่า นางจำเนียรทำหนังสือมอบอำนาจภายหลังจากที่โจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้แล้ว
จำเลยร่วมให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 270,101.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท ค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินคดีให้เป็นพับ ยกฟ้องสำหรับจำเลยร่วม
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสองเสียด้วย ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลยทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความรวม 10,000 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยร่วมในศาลชั้นต้นให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีนางจำเนียรลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท หรือกรรมการอื่นสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัทฯ มีอำนาจกระทำการผูกพันบริษัทฯ นางอรสาเป็นกรรมการคนหนึ่งของโจทก์ วันที่ 23 ธันวาคม 2556 นางอรสาทำหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 ให้นางสาวพิศมัยเป็นผู้มีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสอง โดยนางอรสาลงลายมือชื่อในช่องผู้มอบอำนาจเพียงคนเดียว ไม่มีกรรมการอื่นร่วมลงลายมือชื่อด้วย
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องโดยชอบหรือไม่ เดิมโจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้นางสาวพิศมัยเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีนี้ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 หลังจากจำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 ลงลายมือชื่อนางอรสา กรรมการโจทก์เพียงคนเดียวไม่มีผลผูกพันโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์โดยนางจำเนียร ได้มอบอำนาจให้นางอรสาเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีนี้แทนโจทก์และให้มีอำนาจมอบอำนาจช่วงได้ นางอรสาได้มอบอำนาจช่วงให้นางสาวพิศมัย ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 เห็นว่า หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 และ จ.3 ทำในวันเดียวกัน หากหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2
ทำขึ้นก่อน จ.3 จริง ข้อความในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 น่าจะต้องระบุข้อความทำนองว่า นางอรสาในฐานะผู้รับมอบอำนาจขอมอบอำนาจช่วงให้แก่นางสาวพิศมัย แต่หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 กลับระบุข้อความว่า โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้า นางอรสา บริษัทนิวพลัสอุตสาหกรรม จำกัด… ขอมอบอำนาจให้นางสาวพิศมัย… เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสอง อันมีความหมายว่า นางอรสาในนามของบริษัทโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจให้นางสาวพิศมัยโดยตรง นางอรสามิได้มอบอำนาจให้นางสาวพิศมัยในฐานะที่นางอรสาได้รับมอบอำนาจมาจากนางจำเนียร พฤติการณ์แห่งคดีน่าเชื่อว่า โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 หลังจากจำเลยทั้งสองให้การแก้คดีแล้ว ขณะโจทก์ฟ้องคดีนี้โจทก์มีเพียงหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 เท่านั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาโจทก์ในข้ออื่นอีกเพราะไม่มีผลทำให้คดีต้องเปลี่ยนแปลงไป
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share