แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องว่าจำเลยกีดกั้นทางหลวงโดยเอาขวากทิ้งไว้ด้วยเจตนาจะให้เกิดอันตรายแก่สาธารณชนจนมีผู้ถูกบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยปักขวากไว้ในนาของจำเลยเองเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเดินเข้าไปเหยียบย่ำข้าวที่ปลูกไว้ดังนี้ เป็นเรื่องข้อเท็จจริงได้ความต่างกับฟ้องในข้อ+ ต้องยกฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.192
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจกีดกั้นทางหลวงโดยทอดทิ้งขวากไว้ด้วยเจตนาจะให้เกิดอันตรายแก่สาธารณชน ต่อมามีผู้ถูกขวากนั้นตำได้รับบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๖(๑),๒๕๔
ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ปักขวากนั้นไว้ในที่นาของจำเลยเองด้วยความประสงค์จะป้องกันมิให้ใครเข้าไปเดินผ่านเหยียบย่ำข้างของจำเลยที่ปลูกไว้ในนานั้น โดยได้บอกกล่าวชาวบ้านและปิดประกาศแจ้งไว้ณะที่นั้น
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมีอำนาจทำได้และเป็นเรื่องข้อเท็จจริง พิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทำการป้องกันทรัพย์เกินสมควร จึงพิพากษาอก้ให้ปรับจำเลย ๒ บาทตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๔,๕๓,๔๐
ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กับทางพิจารณาได้ความดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๒