คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ฟังข้อเท็จจริงแย้งตรงกันข้ามกันมาเช่นนี้แม้โจทก์จะฏีกาในข้อกฏหมาย ศาลฏีกาไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ ่ แต่จะวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยหลายกระทง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพะยานโจทก์ยังเป็นทีสงสัยให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ข้อเดียวในคำฟ้องที่หาว่าจำเลยหมื่นประมาท ล. ซึ่งหน้าว่า”มึงมีอำนาจอะไร อีห่า”
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกล่าวคำเช่นนี้จริง แต่เห็นว่าเป็นเพียงคำหยาบไม่เป็นหมิ่นประมาทซึ่งหน้าดังโจทก์หา จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฏีกา
ศาลฏีกาตัดสินว่าเมื่อศาลล่างทั้ง ๒ ฟังข้อเท็จจริงแย้งตรงกันข้ามกันมาเช่นนี้ ศาลฏีกาไม่จำต้องฟังเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเพราะคดีมีปัญหาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย และเห็นว่าคำพะยานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักพอฟังเป็นความจริงว่าจำเลยได้กล่าวคำเช่นที่ฟ้อง จึงไม่ต้องวินิจฉัยในข้อกฎหมายต่อไป พิพากษายืนตามให้ยกฎีกาโจทก์

Share