แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 เช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้วางโทษจำเลยให้หนักขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 212 ประกอบกับมาตรา 225 แล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2508)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ฆ่าเด็กชายคาน ภิรมย์ศรี โดยไตร่ตรองและโดยทรมานทารุณโหดร้าย ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙,๙๒,๓๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานไม่พอฟัง ลงโทษจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยฆ่าเด็กชายคานแต่ไม่ใช่เป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน และไม่ใช่เป็นการทารุณโหดร้ายพิพากษากลับเป็นว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๑๕ ปี เพิ่มโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๙๒ คงจำคุก ๒๐ ปี ริบมีดของกลาง
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ฆ่าเด็กชายคานจริง แต่รูปคดียังไม่ชี้ชัดไปทีเดียวว่าจำเลยฆ่าเด็กชายคานโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือโดยทรมานทารุณโหดร้ายศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๘๙ เช่นนี้ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า โจทก์ได้ฎีกาขอให้วางโทษจำเลยให้หนักขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๑๒ ประกอบกับมาตรา ๒๒๕ แล้ว
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต ที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๒ นั้น ศาลได้วางโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตแล้ว จึงเพิ่มโทษอีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๑ ยกฎีกาจำเลย นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์