คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสัญญาประนีประนอมยอมความกล่าวว่า “เมื่อทางการเทศบาลนครกรุงเทพได้จัดที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างและจัดให้ผู้ค้าแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ 1,2,3 ยอมย้ายแผงลอยจากหน้าร้านโจทก์ไปภายใน 1 เดือน” เช่นนี้ มีความหมายว่า จำเลยที่ 1,2,3 จะย้ายต่อเมื่อเทศบาลจัดสถานที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่าง เพื่อให้จำเลยทั้งสามมีสิทธิเข้าไปทำการค้า ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแผงที่สร้างแล้วอนุญาตให้ค้าได้เฉพาะการค้าผ้า ไม่อนุญาตสำหรับการค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนม อย่างที่จำเลยค้า จำเลยที่ 1,2,3 ยังไม่มีสิทธิเข้าไปทำการค้าในแผงนั้น กรณีจึงยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญายอม โจทก์ไม่มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยที่ 1,2,3 ออกไปได้

ย่อยาว

กรณีเนื่องจากคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว ตามสัญญายอมข้อ ๒ กล่าวว่า “เมื่อทางการเทศบาลนครกรุงเทพได้จัดที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างและจัดให้ผู้ค้าแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ ๑,๒,๓ ยอมย้ายแผงลอยจากหน้าร้านโจทก์ภายใน ๑ เดือน” ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าเทศบาลได้จัดตั้งแผงลอยที่คลองโอ่งอ่างและจัดผู้ตั้งแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ ๑,๒,๓ ไม่จัดการย้ายไป ขอให้บังคับ
จำเลยที่ ๑,๒,๓ คัดค้านว่า แผงลอยนั้นจัดไว้เฉพาะการค้าผ้าเท่านั้น ไม่ได้จัดให้สำหรับค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนมหวานดังจำเลยค้า จึงยังเข้าค้าในแผงลอยนันไม่ได้
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ ๑,๒,๓ ขนย้ายออกไป
จำเลยที่ ๑,๒,๓ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญายอมข้อ ๒ มีความหมายว่าจำเลยที่ ๑,๒,๓ จะย้ายออกจากหน้าร้านโจทก์ต่อเมื่อเทศบาลจัดสถานที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างเพื่อให้จำเลยทั้งสามมีสิทธิเข้าทำการค้า แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า แผงที่สร้างแล้วนั้น อนุญาตให้ค้าได้เฉพาะการค้าผ้าเท่านั้น ไม่อนุญาตสำหรับการค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนมหวานอย่างที่จำเลยค้า จำเลยที่ ๑,๒,๓ ยังไม่มีสิทธิเข้าไปค้าและเทศบาลยังมิได้จัดเตรียมสถานที่ค้าสำหรับผู้ค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนมหวานไว้ให้กรณีจึงยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญายอม โจทก์ไม่มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยที่ ๑,๒,๓ ออกไปได้
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของโจทก์

Share