แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลสั่งปรับนายประกัน ๆ มิได้อุทธรณ์ คงชำระเงินค่าปรับเป็นงวด ๆ จนครบถ้วนแล้ว ภายหลังตามตัวจำเลยมาส่งศาล จนศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปตามความผิดแล้ว นายประกันจึงร้องขอลดค่าปรับที่ศาลสั่งปรับตามสัญญาประกันนั้น เมื่อศาลชั้นต้นเห็นไม่ควรลดค่าปรับ สั่งยกคำร้องก็ถือได้ว่าเป็นการสั่งตามมาตรา 119 นั่นเอง นายประกันย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นได้
ย่อยาว
คดีนี้ เดิมจำเลยถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานรับของโจรตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๑
นายแพงจำเลยหลบหนี ศาลสั่งปรับนายประกัน ๔๐๐๐ บาทตามสัญญา นายประกันชำระค่าปรับหลายงวดจนครบถ้วนแล้ว ต่อมานายประกันนำตัวนายแพงจำเลยมาส่งศาล นายแพงจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลพิพากษาลงโทษและลดโทษแล้ว คงจำคุก ๖ เดือน
นายประกันจึงยื่นคำร้องขอลดค่าปรับตามสัญญาประกัน อ้างว่าได้พยายามติดตามนายแพงจำเลยเสียค่าใช้จ่ายไปมาก
ศาลชั้นต้นเห็นไม่ควรลดค่าปรับให้ สั่งยกคำร้อง
นายประเคนนายประกัน อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ลดหย่อนค่าปรับคืนนายประกัน ๒๐๐๐ บาท
อัยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้เมื่อศาลสั่งปรับนายประกันแล้ว นายประกันมิได้อุทธรณ์ ก็ไม่มีข้อห้ามไม่ให้นายประกันมาร้องขอลดหย่อนค่าปรับ เมื่อนำตัวจำเลยมาส่งศาลได้ในภายหลัง และเมื่อศาลชั้นต้นสั่งประการใด ก็เป็นการที่ศาลชั้นต้นคงสั่งบังคับตามสัญญาประกันตามอำนาจในมาตรา ๑๑๙ ป.ม.วิ.อาญานั้นเอง ฉะนั้นนายประกันผู้ถูกบังคับตามสัญญาประกันจึงมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ตามความในมาตรานี้ และศาลฎีกาเห็นสมควรลดค่าปรับตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไว้
จึง พิพากษายืน