คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ระบุข้อความให้แจ้งชัดว่าทนายมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ทนายโจทก์ร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของทนายโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมเป็นที่สุดจะฎีกาต่อมาไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ 2 ได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำให้โดยไม่ชอบ จึงขอให้พิพากษาว่าใบเหยียบย่ำของจำเลยที่ 2 เป็นโมฆะ ที่รายพิพาทเป็นของโจทก์

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับโดยอ้างว่าในใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ให้สิทธิในการอุทธรณ์โดยเขียนไว้กว้าง ๆ ว่า “ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” เท่านั้น

ทนายโจทก์ร้องอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องของทนายโจทก์

โจทก์ฎีกาขอให้รับอุทธรณ์

ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่าใบแต่งทนายไม่ได้ระบุให้ชัดแจ้งว่าให้มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาแทนโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ตามมาตรา 232 แล้วผู้อุทธรณ์ได้ยื่นคำร้องต่อมาตามมาตรา 234 ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์คงมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นเช่นนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา 236 จึงให้ยกฎีกาโจทก์เสีย

Share