แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อคดีได้ความแต่เพียงว่าจำเลยรับฝากโคไว้แล้วบุตรจำเลยมาเอาไปเสีย โดยโจทก์ไม่มีพยานแสดงให้เห็นว่าจำเลยรู้เห็นเป็นใจให้บุตรจำเลยเอาโคไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเช่นนี้คดีโจทก์ก็ยังชี้ไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอก ฉนั้นแม้คดีจะได้ความว่าจำเลยรับฝากโคไว้แล้วกับปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากก็ดีหรือการที่จำเลยบอกผู้เสียหายว่าบุตรจำเลยเอาไปจากจำเลย ๆ ก็รับจะใช้ให้ก็ดี เมื่อไปพูด “ถ้ามึงพูดดีก็ให้ พูดไม่ดีก็ไม่ให้” เพีบงเท่านี้ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้นายนุ่มผู้เสียหายขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการฟ้องว่า จำเลยได้รับฝากและรับมอบหมายให้ดูแลรักษาโค ๓ ตัวราคา ๑,๖๐๐ บาท ของนายนุ่ม จำเลยทุจริตเบียดบังเอาโค ๓ ตัวไว้ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. ๓๑๔
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์มีพยานแต่นายนุ่มผู้เสียหายคนเดียวที่ยืนยันว่านายนุ่มนำโคไปฝากจำเลยไว้ และพยานโจทก์อื่นก็แตกต่างกันจึงไม่อาจรับฟังได้ อย่างไรก็ตามแม้จะฟังว่าจำเลยได้รับฝากโครายนี้ไว้จริง โจกท์ก็นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยได้มีเจตนาทุจริต ยักยอกโคของนายนุ่มไว้ การที่จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากยังชี้ไม่ได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาทุจริตของจำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์
พนักงานอัยการและนายนุ่มโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. ๓๑๔ ให้จำคุกจำเลย ๖ เดือน แต่เห็นว่าเป็นหญิงไม่เคยทำความผิดมาก่อน ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด ๒ ปี ตาม ม. ๔๑ ฯลฯ
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยได้ รับฝากโคไว้จากผู้เสียหายจริง แต่การที่จำเลยรับฝากโคไว้แล้วกลับปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากหาพอฟังว่าจำเลยเจตนาทุจริตยักยอกโคของนายนุ่มไม่ การที่จำเลยบอกนายนุ่มว่านายอางบุตร จำเลยเอาโคไปจากจำเลย ๆ รับจะใช้ราคาให้เมื่อไปพูกันที่บ้านกำนัน จำเลยยังพูดกับนายนุ่มว่า ” ถ้ามึงพูดดีก็ให้พูดไม่ดีก็ไม่ให้” และโจทก์ไม่มีพยานแสดงให้เห็นว่าจำเลยรู้เห็นเป็นใจให้นายอ่างบุตรจำเลยเอาโคไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว คดีโจทก์ยังชี้ไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกโครายนี้
พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์