แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ระบุข้อความให้แจ้งชัดว่าหมายมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ทนายโจทก์ร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของหมายโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมเป็นที่สุด จะฎีกาต่อมาไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ ๒ ได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำให้โดยไม่ชอบ จึงขอให้พิพากษาว่าใบเหยียบย่ำของจำเลยที่ ๒ เป็นโมฆะ ที่รายพิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับโดยอ้างว่าในใบแต่ทนายโจทก์ไม่ได้ให้สิทธิในการอุทธรณ์โดยเขียนไว้กว้าง ๆ ว่า ” ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” เท่านั้น
ทนายโจทก์ร้องอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องของทนายโจทก์
โจทก์ฎีกาขอให้รับอุทธรณ์
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่ เห็นว่าใบแต่งทนายไม่ได้ระบุให้ชัดแจ้งว่าให้มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาแทนโจทก์ได้ตาม วิ.แพ่ง ม. ๖๒ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ตาม ม. ๒๓๒ แล้วผู้อุทธรณ์ได้ยื่นคำร้องต่อมาตาม ม. ๒๓๔ ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์คงมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นเช่นนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ม. ๒๓๖ จึงให้ยกฎีกาโจทก์เสีย