แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ในคดีนี้เป็นคู่ความในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 448/2529 ของศาลชั้นต้นมี ม. เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมดำเนินคดีแทน คดีดังกล่าวถึงที่สุดด้วยการประนีประนอมยอมความในศาล แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และการทำสัญญาประนีประนอมยอมความจะมิได้ขออนุญาตศาลก่อน คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ก็ย่อมผูกพันโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 หากโจทก์ไม่พอใจคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอย่างใดก็ชอบจะอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา โจทก์จะฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 274/2529 หมายเลขแดงที่ 448/2529 ของศาลชั้นต้นได้ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยขอให้เปิดทางภาระจำยอม ละเมิดและเรียกค่าเสียหาย ต่อมาศาลชั้นต้นได้ไกล่เกลี่ยให้โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอม การทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว โจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมทั้งไม่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน สัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่มีผลผูกพันและบังคับโจทก์ได้ ทำให้โจทก์ต้องเสียที่ดินบางส่วนตามโฉนดเลขที่8007 คำนวณเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท ขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 274/2529หมายเลขแดงที่ 448/2529 ของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองให้การว่า คดีเดิมได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลโดยชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่า โจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้หรือไม่เห็นว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 448/2529 ของศาลชั้นต้น โจทก์ในคดีนี้เป็นคู่ความในคดีนั้นโดยมีนายมนตรี รตโนภาส ผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ดำเนินคดีแทนหากโจทก์ไม่พอใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอย่างไรโจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา แต่โจทก์หาได้อุทธรณ์ไม่คดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ดังนั้นถึงแม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวก็ย่อมผูกพันโจทก์ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 โจทก์จะมาฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความหาได้ไม่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน