คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12142/2558

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งคดีมีมูลโดยอ้างว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ แล้วมีคำสั่งใหม่ ให้เป็นไปตาม ป.วิ.อ. ป.วิ.พ. และ ป.อ. ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่เพิกถอนกระบวนพิจารณาคำสั่งคดีมีมูล เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีของจำเลยที่ 1 เสร็จสิ้นไป เพราะศาลชั้นต้นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหกต่อไป กรณีต้องด้วยบทบัญญัติของ ป.วิ.อ. มาตรา 196 ที่ห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญแก่คดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ไว้วินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลให้จำเลยที่ 1 มีสิทธิฎีกา

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 180, 264, 265, 267, 334, 335, 341, 352, 353, 357, 358 และขอให้ริบทรัพย์ ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอผลคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 630/2554 ของศาลชั้นต้นก่อนแล้วให้คู่ความแถลงเพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ถึงแก่ความตาย นางสาวนันจาหรือเขมจิรา บุตรโจทก์ ยื่นคำร้องขอเข้าดำเนินคดีต่างผู้ตาย ศาลชั้นต้นอนุญาต เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องเสร็จแล้ว มีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า พยานบุคคลและพยานเอกสารเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงถึงจำเลยทั้งหก คดีมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 180, 264, 265, 334, 335, 341, 352, 353, 357, 358 จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งคดีมีมูลแล้วมีคำสั่งใหม่ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและประมวลกฎหมายอาญา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว จึงได้มีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 167, 187 โดยได้แสดงเหตุผลตามสมควรประกอบ ตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการไต่สวนมูลฟ้องด้วยแล้ว กรณีจึงไม่มีเหตุให้เพิกถอนคำสั่งเดิม ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งคดีมีมูลโดยอ้างว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ แล้วมีคำสั่งใหม่ ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและประมวลกฎหมายอาญา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ดังนี้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่เพิกถอนกระบวนพิจารณาคำสั่งคดีมีมูล เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีของจำเลยที่ 1 เสร็จสิ้นไป เพราะศาลชั้นต้นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหกต่อไป กรณีต้องด้วยบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ที่ห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญแก่คดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ไว้วินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลให้จำเลยที่ 1 มีสิทธิฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และยกฎีกาของจำเลยที่ 1

Share