คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใช้ปืนอันเป็นอาวุธร้ายแรงยิงเขา เนื่องจากมีมูลสาเหตุกันมาในระยะเพียง 5 วา ดังนี้ เมื่อไม่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่นก็ต้องฟังว่า มีเจตนายิงเขาให้ตายกระสุนปืนไม่ถูกเขา จำเลยมีผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา
จำเลยเกิดวิวาทชกต่อยกันกับผู้เสียหาย แล้วมีผู้ห้ามแยกกันไป ต่อมาอีก 15 นาทีจำเลยเอาปืนแก๊ปมาไล่ยิงผู้เสียหายอีก แต่ไม่ถูก ดังนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันมาจะเรียกว่าพยายามด้วยความพยาบาทยังไม่ได้

ย่อยาว

ได้ความว่าในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 10.00 น. นายบองกับจำเลยได้เกิดเป็นปากเป็นเสียงกัน ก่อนเกิดเรื่องนายบองหาว่าจำเลยเดินผ่านไร่ฝ้ายเกิดชกต่อยกัน มีผู้มาห้ามต่างก็แยกทางกันเดินไป ต่อจากนั้นราว 15 นาที จำเลยกลับมาหานายบองอีกโดยมีปืนแก๊ปยาวทั้งด้ามและตัวยาว 1 คืนเศษมาด้วย 1 กระบอก และได้ใช้ปืนนั้นยิงนายบอง 1 นัด ในขณะที่วิ่งไล่ตามนายบองในระยะห่างกัน 5 วา แต่กระสุนไม่ถูกนายบอง โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250(3), 60

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยใช้ปืนแก๊ปยิงนายบองจริงแต่ตามพฤติการณ์ เชื่อว่าจำเลยยิงขู่ ไม่มีเจตนาจะยิงให้ถูก พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 250(3), 60

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยใช้ปืน อันเป็นอาวุธร้ายแรงยิงนายบอง เนื่องจากมีมูลสาเหตุกันมาในระยะเพียง 5 วา ดังนี้เมื่อไม่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น ก็ต้องฟังว่า จำเลยมีเจตนายิงนายบองให้ตาย แต่การกระทำของจำเลยเท่าที่ปรากฏมาเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันมาจะเรียกว่าพยายามด้วยความพยาบาทยังไม่ได้

จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60 จำคุก 10 ปี

Share