คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต้องจัดหาสิ่งก่อสร้างและให้คนงานทำ ครั้นตอนหลังไม่สามารถชำระค่าแรงแก่ผู้ก่อสร้างก็แปลว่าหยุดงานได้ กับทั้งไม่มีเงินซื้อสิ่งของที่จะก่อสร้างต่อไป ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าผู้รับเหมาไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดสัญญาที่ไม่ทำการให้เสร็จตามสัญญา
ในกรณีที่ผู้รับเหมาผิดสัญญาแล้วจนผู้ว่าจ้างจัดหาสิ่งก่อสร้างและจ่ายค่าจ้างแก่ผู้ก่อสร้างที่เขาเคยจ้างไว้ต่อไปเช่นนี้ ผู้รับเหมานั้นหาอาจถือเอาประโยชน์มาเป็นการกระทำของตนได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์สร้างตึกแถว 2 ชั้น 21 ห้องในที่ของจำเลย ๆ มีหน้าที่จ่ายเงินค่าก่อสร้างเป็นงวด ๆ รวม 256,100 บาท โจทก์สร้างแล้วจำเลยไม่จ่ายเงินงวด 4, 5 ให้ แต่เมื่อหักหนี้ที่โจทก์ยืมแล้วโจทก์คงมีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยอีก 86,100 บาท

จำเลยให้การว่าโจทก์ผิดสัญญาและฟ้องแย้งเรียกเงิน 48,180.41 บาท ที่ได้จ่ายเกินไปเพราะโจทก์ผิดสัญญา

โจทก์แก้ว่าฟ้องแย้งไม่จริงโจทก์ปฏิบัติตามสัญญาแล้วและว่าฟ้องแย้งเคลือบคลุม

ศาลแพ่งพิพากษาหักกลบลบกันแล้วโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลย 99,000 บาทแต่ฟ้องเรียกเพียง 86,000 บาท จึงให้จำเลยใช้ตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาทำไม่เสร็จงานงวด 4, 5 ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยนั้นสำหรับห้อง 20 ห้องนั้นจำเลยไม่เสียหายฟ้องแย้งโจทก์ไม่ได้ ส่วนห้องที่ 21 จำเลยทำเป็นพิเศษและสืบไม่ได้ว่าเสียหายเท่าใดจึงไม่ควรได้ค่าเสียหายพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์และยกฟ้องแย้งทั้งสองฝ่าย

โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องทำตามสัญญามีหน้าที่จะต้องจัดหาสิ่งก่อสร้างมาให้คนงานทำ ในตอนหลังนี้โจทก์ไม่สามารถจะชำระค่าแรงงานให้แก่นายเฮ้ายู้ บอกว่าไม่มีเงินก็ต้องแปลว่าหยุดงานได้ส่วนสิ่งของที่จะต้องก่อสร้างต่อไปโจทก์ก็ไม่มีเงินจะซื้อหาก็ย่อมเป็นอันเห็นได้ว่าโจทก์ไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามสัญญาเสียแล้วเรียกได้ว่าโจทก์เป็นผู้ผิดสัญญาในการที่ไม่ทำการให้เสร็จตามสัญญา โจทก์ย่อมมิอาจที่จะถือเอาประโยชน์ของการที่จำเลยจัดหาสิ่งก่อสร้างและจ่ายค่าจ้างแก่นายเฮ้ายู้ในระยะหลังนี้มาเป็นการกระทำของตนได้ พิพากษายืน

Share