แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งห้าฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับในส่วนรื้อถอนรั้วสิ่งกีดขวางและสิ่งก่อสร้างในทางภารจำยอม แล้วจำเลยยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาซึ่งศาลอุทธรณ์ให้ยกคำร้องของ จำเลยจึงเป็นกรณีที่อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ จำเลยจะฎีกาคำสั่งนี้ไม่ได้ ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยทั้งห้าเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 264 ระบุว่า ข้อความในหมวดนี้มิให้ถือว่าห้ามคู่ความในอันที่จะมีคำขอต่อศาล เพื่อให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ขอในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา คำขอเช่นว่านี้ให้บังคับตามบทบัญญัติมาตรา 21,25,227,228,260 และ 262 ตามกฎหมายดังกล่าวให้สิทธิจำเลยฎีกาได้ จำเลยจึงมีสิทธิตามกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งห้าไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 5)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ทางพิพาทภายใต้เส้นสีแดงตามแผนที่เอกสารหมาย จ.16 กว้าง 1.20 เมตร ยาว 9.30 เมตร อยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 32097 ตำบลบ้านช่างหล่อ อำเภอบางกอกน้อยกรุงเทพมหานคร ตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 4378และ 4379 ตำบลบ้านช่างหล่อ อำเภอบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครของโจทก์ ให้จำเลยทั้งห้าไปจดทะเบียนภารจำยอมในที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ ให้จำเลยทั้งห้ารื้อถอนรั้ว สิ่งกีดขวางและสิ่งก่อสร้างในทางภารจำยอมออกให้หมด และทำให้ทางภารจำยอมอยู่ในสภาพเรียบร้อย
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์จำเลยทั้งห้ายื่น คำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราว ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการขอให้คุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาย่อมหมายความว่า คู่ความฝ่ายหนึ่งได้กระทำการใด ๆ ที่จะทำให้คู่ความผู้ขอคุ้มครองประโยชน์ต้องเสียหายในระหว่างพิจารณาคดีหรืออาจต้องเสียหายด้วยกัน ซึ่งศาลอาจกำหนดวิธีการใด ๆ ได้ตาม สมควรเพื่อคุ้มครองประโยชน์มิให้คู่ความที่ขอต้องได้รับความ เสียหายในระหว่างพิจารณาคดี แต่กรณีนี้ไม่ได้ความว่า โจทก์ได้ กระทำการใด ๆ อันจะทำให้จำเลยทั้งห้าต้องเสียหายหรือเสื่อมเสีย ประโยชน์ในระหว่างพิจารณา การที่จำเลยทั้งห้ามีหน้าที่ต้อง ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต ให้ทุเลาการบังคับ ไม่ใช่กรณีที่จำเลยทั้งห้าต้องเสียประโยชน์ จากการกระทำของโจทก์ คำร้องไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งห้าฎีกาขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 2)
จำเลยทั้งห้าจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 3)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าฎีกาจำเลยทั้งห้าที่ขอยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยทั้งห้ารื้อถอนรั้วสิ่งกีดขวางและสิ่งก่อสร้างในทางภารจำยอมไว้ก่อนนั้น ก็คือขอทุเลาการบังคับนั่นเอง หาใช่เป็นการคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264แต่อย่างใดไม่ คำสั่งของศาลในเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอำนาจเฉพาะศาล เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องทุเลาการบังคับอย่างใดแล้ว คู่ความจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยทั้งห้าชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ