แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 เดือนและปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีเป็นการแก้ไขมาก แต่ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับ 2,000 บาท และรอการลงโทษจำคุกไว้นั้น ไม่เป็นการเพิ่มเติมโทษ จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จหมิ่นประมาทโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328, 83, 90
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลเฉพาะจำเลยที่ 2และที่ 3 ให้ประทับฟ้อง จำเลยอื่นให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ลงโทษจำคุก 1 เดือน
โจทก์และจำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด1 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด 2 ปี
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี เป็นการแก้ไขมาก แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 3 อีกสถานหนึ่งและรอการลงโทษจำคุกนั้นมิใช่เป็นการเพิ่มเติมโทษ คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 3