คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเพียงแต่นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ยังไม่ได้เอารถออกเป็นการลงมือลักทรัพย์แล้ว เมื่อกระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายเข้ามากอด เอาไว้ทำให้จำเลยเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปไม่ได้ เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1) วรรคแรก จำคุก 5 ปี ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันไม่โต้เถียงกันฟังได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุที่โจทก์ฟ้องผู้เสียหายจอดรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร 9ช-4360ไว้หน้าร้านขายยาสยามเจริญเภสัช แล้วเดินข้ามถนนไปซื้ออาหารโดยลืมกุญแจคาไว้ที่รถ เมื่อผู้เสียหายนึกขึ้นได้และหันมาดูรถเห็นจำเลยนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายอยู่ผู้เสียหายวิ่งข้ามถนนมาสอบถามจำเลยว่าจะเอารถไปไหน จำเลยก็กล่าวคำขอโทษและลงจากรถอ้างว่าจำรถผิด แล้วขับรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดอยู่ใกล้ ๆ กับรถของผู้เสียหายโดยมีชายคนหนึ่งนั่งซ้อนท้ายไปด้วย…พฤติการณ์ที่จำเลยขึ้นไปนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายโดยบิดกุญแจปิดสวิตช์ไฟ และหลังเกิดเหตุจำเลยมีคนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตนไปด้วย แสดงว่าจำเลยมีเจตนาลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ปัญหาวินิจฉัยต่อไปมีว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่ เห็นว่าแม้ผู้เสียหายจะให้การไว้ในชั้นสอบสวนว่า จำเลยขยับรถออกไปจากที่จอดประมาณ 1 เมตร แต่ในชั้นพิจารณา ผู้เสียหายก็ยืนยันว่าจำเลยเพียงแต่นั่งคร่อมยังไม่ได้เอารถออก จึงเป็นการลงมือลักทรัพย์แล้ว แต่เมื่อกระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายเข้ามากอดเอาไว้ ทำให้จำเลยเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปไม่ได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ ที่จำเลยแก้ฎีกาว่าที่เกิดเหตุมีแสงไฟสลัว ๆไม่มีไฟสาธารณะตามภาพถ่ายหมาย ล.1, ล.2 ก็ปรากฏว่าตามภาพถ่ายดังกล่าวมีลักษณะเป็นสามแยก มีเสาไฟฟ้าสาธารณะปรากฏอยู่ตามภาพถ่ายหมาย ล.2 แต่ภาพดังกล่าวมีกันสาดบังตำแหน่งที่น่าจะมีหลอดไฟฟ้าไว้ พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายกฟ้อง ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1) วรรคแรก, 80 จำคุก 3 ปี ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี

Share