แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
+ริมตลิ่งย่อมเปนทรัพย์ของเจ้าของที่ดินแปลงนั้นเจ้าของที่ดินริมตลิ่งย่อมมีสิทธิ+หวงตลอดลำน้ำลำคลอง+ที่ดินของตน ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.242(3) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ที่ขอให้ขับไล่จำเลยเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยตามฟ้องดังนี้ ก็มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดถึงเรื่องเสียหายได้โดยมิต้องสั่งให้ศาลชั้นต้นตัดสินในข้อนี้+
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเอาไม้ซุงมาจอดใน+หน้าที่ดินของโจทก์ จึงขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามคำพะยานฟังได้ชัดเจนว่าที่ ๒ วาต่อจากที่ของโจทก์ตามแผนที่หลังโฉนดนั้นเปนที่งอก ประมวลแพ่งฯม.๑๓๐๘ ย่อมตกเปนทรัพย์สินของที่แปลงนั้น ฉะนั้นตลอดลำคลองหน้าที่ดินของโจทก์ ๆ ก็มีสิทธิหวงห้ามได้ส่วนค่าเสียหายที่จำเลยว่าศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจกำหนดนั้นตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๔๒ (๓) ศาลอุทธรณ์ไม่จำเลยจะต้องสั่งไปให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดในข้อนี้ใหม่ทั้งคู่ความก็ได้ยอมกันว่าจะไม่สืบพะยานในข้อนี้ จะให้ศาลกะพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์