คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามมาตรา 58 ประมวลกฎหมายอาญาคำว่า “และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิด” นั้น หมายความว่าจำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจริงๆ คดีนี้ศาลวางโทษจำคุก 3 เดือน แต่ได้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นให้ส่งตัวไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง ไม่เรียกว่าให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น โจทก์จะขอให้ศาลกำหนดโทษที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ย่อมไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันลักบุหรี่ราคา 325 บาทของนายยิบซองไปก่อนคดีนี้จำเลยที่ 2 เคยต้องโทษฐานสมคบกันเล่นการพนันป๊อกตามพระราชบัญญัติการพนันศาลพิพากษารอการกำหนดโทษไว้ 6 เดือน ตามคดีแดงที่ 406/2508 ขอให้ลงโทษจำเลยและกำหนดโทษที่ศาลรอไว้บวกเข้ากับโทษในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(8), 357, 83, 56, 58

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ และจำเลยที่ 2รับว่าเคยต้องโทษและต้องหาตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์ พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(8), 83 ให้มอบตัวจำเลยที่ 1 ให้นางนิสามารดาบุญธรรมของจำเลยที่ 1 รับตัวไประมัดระวังไม่ให้ก่อเหตุร้ายภายใน 2 ปี หากผิดข้อกำหนดให้ปรับนางนิสาครั้งละไม่เกิน 300 บาท กับให้จำเลยที่ 1 ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนต่อครั้ง ภายใน 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 74(2)(3) และมาตรา 56(1)(3)ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุกจำเลยโดยลดมาตราส่วนโทษแล้วมีกำหนด6 เดือน ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งเหลือ 3 เดือนและให้เปลี่ยนโทษจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นส่งตัวไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางมีกำหนดขั้นต่ำ 1 ปี ขั้นสูง 2 ปี ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 31(2)(3), 32 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2506 มาตรา 9(2) และมาตรา 10 ข้อที่โจทก์ขอให้กำหนดโทษที่ศาลรอไว้บวกเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วยนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ต้องจำคุกในที่สุด จะนำโทษที่ศาลรอไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ไม่ได้ ให้ยกคำขอของโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 โดยกำหนดโทษในคดีอาญาแดงที่ 406/2508 แล้วเอาโทษมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 58 บัญญัติว่า”ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาได้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลัง กำหนดโทษที่รอกำหนดไว้ก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง” นั้น คำว่า “และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิด” หมายความว่าจำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจริง ๆ จึงให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอกำหนดไว้คดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลังการที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน แต่ได้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นให้ส่งตัวไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางนั้น ไม่เรียกว่าให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้นตามมาตรา 58 กรณีจึงไม่เข้าตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พิพากษายืน

Share