แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เฉพาะความผิดข้อหาว่าร่วมกันปลอมสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน หนังสือรับรองให้ทำการปลูกสร้างอาคารในที่ดินและเช็ค กับความผิดข้อหาใช้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและหนังสือรับรองให้ทำการปลูกสร้างอาคารในที่ดิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์จึงต้องห้ามฎีกาในข้อหาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
โจทก์ฎีกาอ้างว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ปลอมเช็คตามฟ้องแล้วนำไปใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี จึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมโดยมิได้กล่าวอ้างว่าบุคคลอื่นเป็นผู้ปลอมแต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วว่าจำเลยมิได้ปลอมเช็คดังกล่าว และพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ปัญหาว่าจำเลยที่ 2 ปลอมเช็คหรือไม่จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา
ถ้าคดีมีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าเช็คตามฟ้องไม่ใช่เอกสารปลอม การที่จำเลยที่ 2 นำเอกสารดังกล่าวไปใช้อ้างเป็นพยานในการดำเนินคดี จึงไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม