แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ขณะที่จำเลยทราบว่าภรรยาจำเลยถูกผู้เสียหายปลุกปล้ำกระทำชำเรานั้น จำเลยไม่ได้แสดงอาการโกรธหรือจะทำร้ายผู้เสียหายแต่ได้ออกไปหาปลาร่วมกับผู้เสียหายโดยมีเวลานานถึง 3 ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงได้ใช้มีดฟันทำร้ายผู้เสียหายจึงมิใช่เป็นการกระทำต่อผู้ถูกข่มเหงในขณะนั้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288
จำเลยให้การรับว่า ได้ใช้มีดฟันผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าจริงแต่กระทำไปโดยบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 288 จำคุก 10 ปี คำให้การของจำเลยที่รับว่าได้ฟันผู้เสียหายจริงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งนั่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง จำเลยใช้มีดยาวประมาณ 70 ถึง 80 เซนติเมตรใบมีดกว้าง 4 นิ้ว เป็นอาวุธฟันผู้เสียหาย ถูกที่บริเวณศีรษะด้านหลัง สะบักขวา และซ้ายได้รับอันตรายสาหัส ปรากฏตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้อง มีปัญหาในชั้นฎีกาว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะหรือไม่ คดีนี้ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ฎีกาโต้เถียงกันฟังได้ว่า ผู้เสียหายได้ปลุกปล้ำข่มขืนกระทำชำเราภรรยาจำเลยหลายครั้ง ขณะจำเลยไม่อยู่บ้านในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ18 นาฬิกา ภรรยาจำเลยจึงเล่าเรื่องให้จำเลยฟัง แต่หลังจากทราบเรื่องจากภรรยาแล้ว จำเลยก็ยังออกไปหาปลาร่วมกับผู้เสียหายตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกา จนถึงเวลา 21 นาฬิกา จำเลยจึงใช้อาวุธมีดฟันผู้เสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่า การจะอ้างว่าเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 นั้น นอกจากจะต้องถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแล้ว ยังต้องกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้นด้วย แม้การที่ผู้เสียหายเป็นชู้กับภรรยาจำเลยจะเป็นการข่มเหงจำเลยซึ่งเป็นสามีอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก็ตาม แต่เมื่อจำเลยทราบเรื่องจากภรรยาตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกา ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยแสดงอาการโกรธหรือจะไปทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใด จำเลยยังคงไปจับปลากับผู้เสียหายจนกระทั่งเวลา 21 นาฬิกา จึงได้ใช้อาวุธมีดฟันผู้เสียหาย เมื่อนับตั้งแต่เวลาที่จำเลยทราบเรื่องจากภรรยาจนถึงเวลาเกิดเหตุ เป็นเวลานานถึง 3 ชั่วโมง มีเวลาเพียงพอที่จำเลยจะคิดใคร่ครวญระงับโทสะแล้วการกระทำของจำเลยมิใช่การกระทำในขณะกระชั้นชิดต่อเนื่องยังไม่ขาดตอนกรณีจึงมิใช่การกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 72 ดังกล่าว ที่ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันมาว่าการกระทำของจำเลยไม่ใช่การกระทำโดยบันดาลโทสะชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 วรรคแรก บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุกและในคดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกินสองปี ศาลจะรอการลงโทษก็ได้ฯลฯ คดีนี้ศาลลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 2 ปี จึงไม่อาจรอการลงโทษให้ตามบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รอการลงโทษให้แก่จำเลยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน