คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตามกรมธรรม์ประกันภัยระบุว่าไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ตามกฎหมาย หรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมายในขณะเกิดเหตุ ปรากฏว่าคนขับรถยนต์ของโจทก์เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ แต่ขณะเกิดเหตุขับรถไปชนผู้อื่น ขาดต่ออายุใบอนุญาต ดังนี้ กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นดังกล่าวข้างต้นจำเลยผู้รับประกันภัยไม่พ้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 8,287 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย เพราะคนขับรถยนต์ของโจทก์เป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ตามกฎหมายเป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.11.7 พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ในการวินิจฉัยข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า นายสมนึก เจริญวงศ์ คนขับรถยนต์ของโจทก์เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้แต่ขณะเกิดเหตุใบอนุญาตให้ขับรถยนต์ของนายสมนึกขาดต่ออายุ ปัญหาว่าจำเลยจะต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.1 หรือไม่ ตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อ 2.11 ระบุว่า การประกันภัยตามข้อ 2.1 ข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจาก…………2.11.7 การขับขี่โดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ตามกฎหมาย หรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมายในขณะเกิดเหตุ เห็นว่าตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.1 ประสงค์ที่จะคุ้มครองเฉพาะบุคคลที่มีความรู้ความสามารถขับรถยนต์ได้ ไม่ต้องการที่จะคุ้มครองผู้ที่ไม่มีความรู้ในการขับรถยนต์เพราะเป็นการเสี่ยงภัยมากเกินไปซึ่งจะทำให้ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนมากขึ้น ดังนั้น แม้ต่อมานายสมนึกคนขับรถยนต์ของโจทก์จะขาดต่ออายุใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของตน ความรู้ความสามารถในการขับรถยนต์ของนายสมนึกก็ยังมีอยู่เช่นเดิม จึงถือไม่ได้ว่าคนขับรถยนต์ของโจทก์เป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ตามกฎหมาย หรือถูกตัดสิทธิในการขับรถยนต์ตามกฎหมายในขณะเกิดอุบัติเหตุ กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.1 จำเลยไม่พ้นความรับผิด”

พิพากษายืน

Share