คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขับรถแซงขึ้นหน้ารถบรรทุกของทหารที่จอดอยู่ข้างหน้านั้นเป็นการขับหลีกรถที่จอดอยู่ไปเท่านั้นย่อมจะขับหลีกไปได้ไม่ใช่การเดินรถขึ้นหน้ารถคันใดซึ่งกำลังเดินไปข้างหน้าของรถจำเลยการกระทำของจำเลยจึงไม่ผิดกฎจราจร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 2 ขับรถยนต์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-ปากเกร็ด จำเลยทั้ง 2 ต่างฝ่ายขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถคันที่จำเลยที่ 2 ขับมาเกิดการกระแทกและเป็นเหตุให้ผู้โดยสารคันที่จำเลยขับมาหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สาหัส ขอให้ลงโทษ

จำเลยทั้ง 2 ปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยทั้ง 2 มีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 259 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 6 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2481 มาตรา 4 ให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 มีกำหนด 6 เดือน ฯลฯ

จำเลยที่ 1 ฎีกาฝ่ายเดียว

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่หาว่าจำเลยที่ 1 ขับรถแซงรถยนต์คันหนึ่งซึ่งจอดกีดขวางอยู่ข้างหน้าบนเชิงสะพานนั้น โจทก์เข้าใจกฎหมายผิด โดยเฉพาะข้อที่ห้ามมิให้เดินรถขึ้นหน้ารถคันอื่นในที่ ๆ มีรถหรือสิ่งอื่นกีดขวางอยู่ข้างหน้าตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 11 นั้น ย่อมหมายความว่า ห้ามมิให้เดินรถขึ้นหน้ารถคันอื่นซึ่งกำลังเดินไปข้างหน้าในทางเดียวกันในที่ ๆ มีรถหรือสิ่งอื่นกีดขวางอยู่ข้างหน้า จำเลยที่ 1 มิได้เดินรถขึ้นหน้ารถคันใดซึ่งกำลังเดินไปข้างหน้ารถของจำเลยที่ 1 เลย ระหว่างรถของจำเลยที่ 1 กับรถบรรทุกของทหารที่จอดอยู่ไม่มีรถคันอื่นเลย ที่โจทก์เข้าใจว่าการที่จำเลยที่ 1ขับรถหลีกรถบรรทุกของทหารที่จอดอยู่นั้น เป็นการขับหลีกรถที่จอดอยู่ไปเท่านั้น ย่อมจะขับหลีกไปได้ไม่ผิดกฎจราจร และการที่เกิดการกระทบกระแทกกันขึ้นนั้นเป็นเพราะความผิดของจำเลยที่ 2 ฝ่ายเดียว จำเลยที่ 1 หาได้กระทำผิดไม่ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องของโจทก์ในข้อหาส่วนตัวจำเลยที่ 1

Share