คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แผนที่ระวางเป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นตาม ป.วิ.แพ่ง ม.127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เมื่อโจทก์อ้างมาเป็นพยานจึงเป็นหน้าที่ของจำเลยซึ่งถูกอ้างเอกสารนั้นมายันจะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้อง จำเลยไม่สืบก็ต้องแพ้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าที่ดินโฉนดที่ ๑๐๔ ตำบลศีร์ษะกะบือ อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี เนื้อที่ ๒๐ ไร่ ๓ งาน ๕๒ ตารางวาเป็นของโจทก์โดยซื้อไว้จากนางแอ๊ด วัจนรัจตน์ ต่อมาจำเลยนำเจ้าพนักงานรังวัดทำแผนที่กลางที่พิพาทตามคำสั่งศาลแพ่งในสำนวนคดีคำที่ ๑๑๘๐/๒๔๙๕ รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินโฉนดที่ ๑๐๔ เป็นของโจทก์อย่าให้จำเลยหรือบริวารเกี่ยวข้องต่อไป
จำเลยต่อสู้ว่าบิดาและจำเลยโก่นสร้างมาประมาณ ๕๐ ปี ที่ดังกล่าวนายมานิดเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยตามคดีดำที่ ๑๑๘๐/๒๔๙๕ หากที่ดินที่โจทก์ฟ้องนี้เป็นแปลงเดียวกันนี้ก็เป็นที่จำเลยมีกรรมสิทธิ์ครองครองมา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกับนายอยู่ไปโอนให้แก่นางเสนและได้มีการโอนขายต่อ ๆ กันไปจนถึงนางแอ๊ดขายให้โจทก์ หาใช่จำเลยครอบครองไม่ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นที่ดินตามโฉนดที่ ๑๐๔ ของโจทก์เป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ ห้ามจำเลยและบริวารไม่ให้เข้าเกี่ยวข้องต่อ ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีโจทก์มีพยานบุคคลและเอกสารประกอบกันพอฟังได้ว่าที่พิพาทคือที่ดินโฉนดที่ ๑๐๔ ของโจทก์ ข้อที่จำเลยฎีกาว่าแผนที่ระวางหมาย จ.๑๑ ซึ่งศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยนั้นเป็นแต่เพียงสำเนาการที่ศาลอุทธรณ์รับฟังสำเนาเอกสารฉบับนี้จึงเป็นการรับฟังที่ฝ่าฝืนต่อ ก.ม.นั้นเห็นว่าแผนที่ระวางดังกล่าวเป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๑๒๗ ให้สันนิษฐานว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของจำเลยซึ่งถูกอ้างเอกสารนั้นมายันจะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้อง เมื่อจำเลยไม่สามารถนำสืบความดังกล่าวได้ ฎีกาจำเลยข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้น ที่พิพาทเป็นที่มีโฉนดซึ่งจำเลยได้ขายให้แก่คนอื่นไปแล้ว ที่จำเลยอ้างว่าครอบครองมาฟังไม่ได้.
พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share