แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จว่าที่ดินที่จำเลยยกให้แก่ ค.นั้นทิศเหนือจดบ้านนายกวนแต่ความจริงที่ดินนั้นจดบ้านนายฉ่ำ ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าที่ดินที่จำเลยซื้อจากขุนอนุพลนั้นทิศเหนือจดบ้านนายฉ่ำดังนี้ เรียกว่าข้อความที่โจทก์นำสืบไม่ตรงกับฟ้องต้องยกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าเบิกความเท็จ โดยกล่าวว่าจำเลยเอาความไปแจ้งแก่กรมการอำเภอทับเที่ยงว่าที่ดินที่จำเลยยกให้ ค. เก็บผลหมากนั้น ทิศเหนือจดบ้านนายกวน แต่ความจริงที่ดินนั้นจดบ้านนายฉ่ำ
ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าที่ดินซึ่งจำเลยซื้อจากขุนอนุพลจดที่นายฉ่ำ ไม่ใช่จดที่นายกวน
ศาลฎีกาตัดสินว่าประเด็นขั้นต้นมีว่าเขตต์ที่ดินที่จำเลยยกให้ ค.นั้นเพียงไหนไม่ใช่ว่าจำเลยมีที่ดินแค่ไหน การที่โจทก์นำสืบเพื่อให้เห็นว่าจำเลยมีที่ดินแต่ส่วนหนึ่งอันเป็นส่วนน้อย ที่ดินซึ่งจำเลยยกให้ ค.มิได้รวมอยู่ในจำนวนเนื่อที่ดินซึ่งจำเลยซื้อจากขุนอนุพล จำเลยไม่มีสิทธิเอาที่ดินของผู้อื่นไปยกให้ ข้อความที่จำเลยแจ้งจึงเป็นเท็จนั้น เป็นการสันนิษฐานซึ่งไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา ศาลต้องถือคำฟ้องเป็นประเด็นที่โจทก์ก็ต้องนำสืบให้สมการที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยซื้อที่ดินจากขุนอนุพลมีเขตต์ทิศเหนือจดที่นายฉ่ำนั้น ไม่ใช่ประเด็นตามฟ้อง ฉะนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าข้อความที่โจทก์นำสืบไม่ตรงกับฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๒ วรรค ๒ นั้นชอบแล้ว จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ต้องตามศาลอุทธรณ์