แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ตามความในพ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. 2479 ม.8 นั้นหมายความว่าถ้าผู้ใดได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วตั้งแต่ 2 ครั้งหรือกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ก็เรียกว่าไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง
จำเลยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อมาต้องคำพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายคดีนี้ขึ้นอีก กรณีจึงเข้าเกณฑ์ความผิดตาม พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. 2479 ม.8ด้วย (ฎีกาที่ 714/24+)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยลักปากกาหมึกซืมไปจากกระเป๋าเสื้อของนายหก เหตุเกิดบนรถยนต์โดยสารประจำทางศรีนคร ก่อนคดีนี้จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ตามคำพิพากษาของศาลมาแล้ว ๒ ครั้ง อันมิใช่ความผิดฐานประมาทหรือลหุโทษจำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายไปแล้วภายใน ๓ ปี กลับมากระทำผิดในครั้งนี้อีก ไม่เข็ดหลาบ เพราะความผิดฐานลักทรัพย์ในครั้งนี้เป็นความผิดอาญาอันเป็นเหตุร้าย ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตาม ก.ม. อาญา ม. ๒๙๓,๗๓ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. ๒๔๗๙ ม.๔,๘,๙
จำเลยปฏิเสธ ส่วนข้อหาว่าเคยต้องโทษรับว่าเป็นความจริง
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยลักทรัพย์ไปจริงตามฟ้องพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๔๓(๑) ให้จำคุก ๓ ปี เพิ่มโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๗๓ กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๔ ปี ๖ เดือน กับให้ลงโทษกักกันจำเลยตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. ๒๔๗๙ ม.๔,๘,๙ มีกำหนด ๓ ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ว่าโทษของจำเลยยังไม่ตกอยู่ในข่ายที่จะส่งไปกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. ๒๔๗๙ ม.๘
ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาข้อนี้ได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๑๔/๒๔๙๘ ระหว่างอัยการ โจทก์นายพิน จำเลย ว่า ข้อความที่บัญญัติ ถ้าผู้ใดเคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ครั้งนั้นหมายความว่าถ้าผู้ใดได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้ว ๒ ครั้งหรือกว่า ๒ ครั้งขึ้นไป ก็เรียกว่าไม่น้อยกว่า ๒ ครั้ง จำเลยนี้เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกฐานลักทรัพย์มาแล้ว ๒ ครั้งและมาต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายในคดีนี้อีก กรณีจึงตกอยู่ในบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. ๒๔๗๙ ม.๘ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน