คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายแก่ผู้ถือและโจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คพิพาทไม่ปรากฏในคำให้การของจำเลยโดยชัดแจ้งว่า โจทก์ได้เช็คมาไว้ในความครอบครองโดยไม่ชอบอย่างไร จำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ ว่าบริษัทอ.มิได้นำเช็คชำระหนี้แก่โจทก์ จึงต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบตาม ป.พ.พ.มาตรา 904 ที่จำเลยให้การว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้นั้น ก็เป็นการกล่าวอ้างถึงมูลหนี้ระหว่างจำเลยกับ ก. โดยมิได้ให้การว่าโจทก์กับ ก. คบคิดกันฉ้อฉล จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงชอบด้วยกระบวนพิจารณา.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายถึงกำหนดโจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 10,745 บาท พร้อมกับดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย บริษัทไอเมกซ์อินเตอร์มิได้นำเช็คพิพาทชำระหนี้แก่โจทก์ เช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์โดยไม่ให้จำเลยนำสืบข้อเท็จจริงตามข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายเสียก่อนเป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ พิเคราะห์แล้วจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมายเพราะโจทก์เคยนำเช็คพิพาททั้งสองฉบับฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงพระนครใต้ในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแต่ศาลแขวงพระนครใต้ได้พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า โจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 โจทก์ทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ เพราะเป็นเช็คที่จำเลยออกให้แก่นายกาญจนะเป็นการค้ำประกันหนี้ค่าแชร์ ต่อมามีการล้มเลิกวงแชร์ไปแล้วจึงไม่มีมูลหนี้ต้องรับผิดตามเช็คบริษัทไอเมกซ์อินเตอร์มิได้นำเช็คพิพาทชำระหนี้แก่โจทก์ จากคำให้การของจำเลยดังกล่าวสรุปได้ว่าที่จำเลยอ้างว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายก็เพราะ ศาลแขวงพระนครใต้ได้วินิจฉัยไว้ในคดีอาญาแล้วว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904ประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะฟังว่าศาลแขวงพระนครใต้จะได้วินิจฉัยไว้ในคดีที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ก็ตาม แต่คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันศาลที่พิจารณาคดีนี้ให้จำต้องฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญา เพราะคดีนี้มิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว เมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ฟังได้ตามคำฟ้องและคำให้การแล้วว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายแก่ผู้ถือและโจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คพิพาท ทั้งไม่ปรากฏในคำให้การของจำเลยโดยชัดแจ้งว่า โจทก์ได้เช็คมาไว้ในความครอบครองโดยไม่ชอบอย่างไร จำเลยเพียงแต่ให้การปฏิเสธลอย ๆ ว่า บริษัทไอเมกซ์อินเตอร์มิได้นำเช็คชำระหนี้แก่โจทก์เท่านั้น จึงต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 แล้วคดีไม่จำต้องสืบพยานอีกต่อไป ส่วนที่จำเลยให้การว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้นั้น ก็เป็นการกล่าวอ้างถึงมูลหนี้ระหว่างจำเลยกับนายกาญจนะ โดยจำเลยมิได้ให้การว่าโจทก์กับนายกาญจนะสมคบกันฉ้อฉลแต่อย่างใด จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบเช่นกัน ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว…”
พิพากษายืน.

Share