แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยด้านที่ติดต่อกับที่ดินโจทก์ทำการซ่อมแซมตึกโจทก์โจทก์ได้ซ่อมแซมด้านทิศตะวันตกไปแล้วแต่จำเลยไม่ยอมให้ซ่อมแซมด้านทิศเหนือขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์จำเลยฟ้องแย้งว่าโจทก์กระทำละเมิดโดยสร้างกันสาดด้านเหนือและปลูกสร้างตึกด้านตะวันออกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยขอให้บังคับโจทก์รื้อถอนกันสาดและตึกพร้อมคานคอดินส่วนที่รุกล้ำออกไปดังนี้ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิบังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์หรือไม่ส่วนฟ้องแย้งและคำให้การแก้ฟ้องแย้งเป็นกรณีต้องวินิจฉัยว่าโจทก์กระทำละเมิดต่อจำเลยหรือไม่ประเด็นที่วินิจฉัยตามคำฟ้องและฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องกันและมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันในการวินิจฉัยฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียงกันโจทก์มีความประสงค์ที่จะซ่อมแซมตึกของโจทก์เนื่องจากผนังตึกทางด้านทิศตะวันตกและทางทิศเหนือแตกร้าวทำให้น้ำซึมเข้ามาในตึกที่โจทก์อยู่อาศัย โจทก์ได้ทำการซ่อมแซมตึกโดยจำเลยยินยอมให้ใช้ที่ดินติดต่อดังกล่าวได้ เมื่อโจทก์ได้ทำการซ่อมแซมในด้านทิศตะวันตกไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว จำเลยกลับไม่ยินยอมให้โจทก์เข้าไปซ่อมแซมในทางด้านทิศเหนือของตึกอีก เป็นเหตุให้เวลาฝนตกน้ำซึมเข้ามาในตึกและห้องนอนของโจทก์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินติดต่อเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกแถวของโจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเพราะตึกของโจทก์สร้างเสร็จแล้ว โจทก์ทำกันสาดด้านทิศเหนือและผนังตึกกับฐานรากคานคอดินด้านทิศตะวันออกของโจทก์รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของจำเลย เป็นการกระทำละเมิดต่อจำเลย ขอให้ยกฟ้องและบังคับโจทก์รื้อถอนกันสาดและผนังตึกพร้อมคานคอดินในส่วนที่รุกล้ำออกไปจากที่ดินของจำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า การสร้างกันสาดปูนพร้อมนั่งร้านนั้น โจทก์ได้รับอนุญาตจากจำเลยแล้ว หากฐานรากและคอดินตลอดจนผนังตึกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยตามที่จำเลยกล่าวอ้าง โจทก์ก็สร้างรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยโดยสุจริต จำเลยต้องจดทะเบียนสิทธิเป็นภารจำยอมให้แก่โจทก์โดยโจทก์ยอมเสียเงินค่าใช้ที่ดินให้แก่จำเลย ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นสั่งทำรับคำให้การ ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่าที่ดินของโจทก์อยู่ติดกับที่ดินของจำเลย โจทก์ประสงค์จะซ่อมแซมตึกในที่ดินของโจทก์โดยจำเลยยินยอมให้ใช้ที่ดินของจำเลยด้านที่ติดต่อกันทำการซ่อมแซมได้ แต่เมื่อโจทก์ซ่อมแซมในด้านตะวันตกไปได้ส่วนหนึ่งแล้วจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปซ่อมแซมในทางด้านทิศเหนือของตัวตึกต่อไป จึงขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์ ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยอ้างว่าโจทก์กระทำละเมิดโดยสร้างกันสาดด้านเหนือและปลูกสร้างตึกด้านตะวันออกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย ขอให้บังคับโจทก์รื้อถอนกันสาดและตึกพร้อมคานคอดินส่วนที่รุกล้ำออกไปจากที่ดินของจำเลย ดังนี้ ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธิบังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์หรือไม่ ส่วนฟ้องแย้งและคำให้การฟ้องแย้งเป็นกรณีต้องวินิจฉัยว่า โจทก์กระทำละเมิดโดยสร้างกันสาดและผนังตึกพร้อมคานคอดินรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยหรือไม่ ดังนี้ประเด็นที่วินิจฉัยตามคำฟ้องและฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องกัน และมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ในการวินิจฉัยฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
พิพากษายืน