คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายก็ตาม แต่โจทก์ก็มี น., อ.,ส. และแพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายผู้เสียหาย อันเป็นพยานบุคคลมาเบิกความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งพยานโจทก์ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพยานแวดล้อมกรณี หาใช่พยานบอกเล่าไปทั้งหมดไม่ คำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างมีเหตุผล จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าเป็นความจริง อนึ่ง คำพยานบอกเล่ามิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียทีเดียว แต่อาจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง, 83
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง จำเลยที่ 1 อายุ 17 ปีลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 10 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปีคำให้การของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 ปี 8 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 13 ปี 4 เดือน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2อายุ 18 ปี เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 10 ปีจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยในชั้นฎีกาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 มีว่า จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 กับพวกข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายด้วยหรือไม่ โดยจำเลยที่ 1 ฎีกาว่าโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าจำเลยที่ 1 กับพวกข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย คงมีแต่คำพยานบอกเล่าเท่านั้นซึ่งไม่มีน้ำหนักพอฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ได้ เห็นว่า แม้โจทก์จะไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายก็ตาม แต่โจทก์ก็มีนางสาวนฤมลเพื่อนของผู้เสียหายนางอรพิน ชลศิริวานิช นางสาวสุกัญญา นาคศรีสุข และแพทย์หญิงสุมนา รัตนนันทวาที อันเป็นพยานบุคคลมาเบิกความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยานโจทก์ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพยานแวดล้อมกรณีหาใช่พยานบอกเล่าไปทั้งหมดไม่ คำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างมีเหตุผล มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าเป็นความจริง อนึ่ง คำพยานบอกเล่ามิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียทีเดียว แต่อาจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนโดยสมัครใจหาใช่พนักงานสอบสวนพิมพ์คำให้การรับสารภาพให้จำเลยที่ 1ลงชื่อโดยมิได้อ่านข้อความให้จำเลยที่ 1 ฟังแต่ประการใด ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share