คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกที่พิพาทให้จำเลย แต่ให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์กินจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทตามข้อกำหนดในพินัยกรรม จะถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือเพื่อตัวโจทก์ไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้สิทธิครอบครอง
การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่ดินซึ่งเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นไว้ โดยพินัยกรรมระบุให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินนั้น ถือว่าโจทก์อยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นนานเพียงใดก็ถือว่าเป็นการปกครองแทนผู้เป็นเจ้าของ จะยกอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันผู้เป็นเจ้าของไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับสามีได้ซื้อที่ดินไว้เมื่อ พ.ศ. 2473 แล้วได้ครอบครองและเก็บผลประโยชน์ตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2499 สามีโจทก์ตาย โจทก์คงครอบครองยึดถือที่ดินดังกล่าว ต่อมา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2508 จำเลยได้ร้องขอแบบ น.ส.3 อ้างว่าสามีโจทก์ทำพินัยกรรมยกให้ โจทก์จึงไปคัดค้านแต่ไม่ตกลงกันขอให้แสดงว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์

จำเลยให้การว่า สามีโจทก์ทำพินัยกรรมยกที่ดินดังกล่าวให้ แต่ให้โจทก์อาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อาศัยและเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์พิพาทก็เพราะโจทก์ปฏิบัติตามพินัยกรรม โจทก์มากล่าวอ้างภายหลังว่าเป็นทรัพย์ของโจทก์เป็นการไม่ชอบ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า พินัยกรรมของสามีโจทก์สมบูรณ์เพียง 2 ส่วน ที่พิพาทจึงเป็นของโจทก์ 1 ส่วน แต่โจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งจึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาท 1 ใน 3เป็นของโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีเพียงสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทส่วนที่เป็นมรดกของสามีโจทก์ซึ่งตกได้แก่จำเลยตามพินัยกรรมไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทจึงอยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของจำเลยผู้เป็นเจ้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์มรดกมานานเพียงใดก็ได้ชื่อว่าเป็นการปกครองแทนจำเลยผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงตามพินัยกรรม โจทก์จะยกอายุความมรดกตามมาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันจำเลยไม่ได้ และเห็นว่าการที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทส่วนที่เป็นมรดกของสามีโจทก์ตลอดมาจนถึงปัจจุบันเป็นการใช้สิทธิอยู่อาศัยและเก็บกินผลประโยชน์ตามข้อกำหนดในพินัยกรรมจะถือว่า โจทก์มีเจตนายึดถือเพื่อตัวโจทก์อยู่อีกหาได้ไม่ โจทก์จึงไม่มีทางได้สิทธิครอบครอง

พิพากษายืน

Share