แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยแปรรูปไม้ในบริเวณบ้านของจำเลยส่วนที่เป็นเพิงหลังบ้าน พนักงานเจ้าหน้าที่ยึดได้ไม้สักแปรรูปจำนวน 139 แผ่นปริมาตร 0.129 ลูกบาศก์เมตร บานหน้าต่างไม้สัก 60 บานและบานประตูไม้สัก 4 บาน เครื่องมือเครื่องใช้ในการแปรรูปไม้และทำสิ่งประดิษฐ์ โดยเฉพาะพบแท่นซอยและแท่นเจาะติดตั้งไว้กับพื้นรวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ อีกหลายรายการกับพบร่องรอย ขี้เลื่อยขี้กบทั้งเก่าและใหม่ในบริเวณบ้านด้วย แสดงว่าเป็นสถานที่จัดขึ้นไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้โดยเฉพาะ จึงเป็นโรงงานแปรรูปไม้ตามบทนิยามในพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 4(13) จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจึงมีความผิดตามมาตรา 78,73
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ขึ้น ณ บ้านเลขที่ 35/2 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองปลิงอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โดยใช้เครื่องมือเครื่องจักรกล คือแท่นซอยไม้ติดตั้งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 1.55 แรงม้า และ 2.36 แรงม้า รวม 2 เครื่องแท่นเจาะไม้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 0.5 แรงม้า จำนวน1 เครื่องเลื่อนยกจำนวน 2 ปื้น ทำการเลื่อยผ่าไม้ให้เปลี่ยนรูปและขนาดไปจากเดิม และจำเลยได้ทำการแปรรูปไม้สักซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยเลื่อยออกเป็นแผ่นรวมจำนวน139 แผ่นปริมาตร 0.129 ลูกบาศก์เมตร อันเป็นการทำให้ไม้เปลี่ยนรูปและขนาดไปจากเดิม เพื่อการค้าภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานและไม่มีเหตุอันได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย และจำเลยมีไม้แปรรูปตามจำนวนและปริมาตรดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อการค้า นอกจากนี้จำเลยมีไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าซึ่งบานหน้าต่างจำนวน60 บาน บานประตูจำนวน 4 บาน ซึ่งทำด้วยไม้สัก ภายในเขตควบคุมสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอันใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามเกินปริมาณกว่าที่รัฐมนตรีกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 7,48, 50, 53, 53 ทวิ, 53 ตรี, 73, 73 ทวิ, 74, 74 ทวิ,74 จัตวา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ริบของกลางและจ่ายสินบนตำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาตั้งโรงงานแปรรูปไม้ และให้การรับสารภาพข้อหาแปรรูปไม้ มีไม้แปรรูป และมีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 7, 48, 50, 53 ทวิ, 53 ตรี, 73(ที่ถูกมาตรา 73 วรรคสอง (1)), 73 ตรี (ที่ถูก มาตรา 73 ทวิ),74 จัตวา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลงโทษฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้จำคุก 2 ปี ฐานแปรรูปไม้จำคุก 1 ปีฐานมีไม้แปรรูปจำคุก 1 ปี ฐานมีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานแปรรูปไม้ มีไม้แปรรูป มีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษฐานแปรรูปไม้จำคุก6 เดือน ฐานมีไม้แปรรูปจำคุก 6 เดือน ฐานมีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าจำคุก 3 เดือน รวมจำคุก3 ปี 3 เดือน ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำเลยฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้จำคุก 1 ปี เมื่อรวมโทษที่ศาลชั้นต้นกำหนดในความผิดฐานอื่นแล้วคงจำคุก 2 ปี 3 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ข้อหาฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น จำเลยแปรรูปไม้จากไม้ที่แปรรูปไว้แล้วมิได้แปรรูปไว้เพื่อการค้า แต่แปรรูปไว้เพื่อประกอบสิ่งประดิษฐ์ประตูหน้าต่างเพื่อการค้าอีกต่อหนึ่งซึ่งมีบทบัญญัติความผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว การกระทำของจำเลยจึงได้รับยกเว้นตามมาตรา 50(2) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484ไม่เป็นความผิดนั้น เห็นว่า ข้อหาฐานความผิดดังกล่าวจำเลยมิได้อุทธรณ์ จึงเป็นที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยจะยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาหาได้ไม่ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยคดีคงมีปัญหาวินิจฉัยต่อไปว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตามฟ้องหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ทำการแปรรูปไม้เป็นอาจิณ อีกทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการแปรรูปไม้มีกำลังเพียงเล็กน้อยไม่พอถือได้ว่าจำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดนั้นเห็นว่า ตามมาตรา 4(13) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 ให้นิยาม “โรงงานไม้แปรรูป” ไว้ว่าหมายความว่าโรงงานหรือสถานที่ใด ซึ่งจัดขึ้นไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้รวมถึงบริเวณโรงงานหรือสถานที่นั้น ๆ ด้วย ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยว่าจำเลยแปรรูปไม้ในบริเวณบ้านของจำเลยส่วนที่เป็นเพิงหลังบ้านวันเกิดเหตุพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางได้ไม้สักแปรรูปจำนวน 139 แผ่น ปริมาตร 0.129 ลูกบาศก์เมตรบานหน้าต่างไม้สัก 60 บาน และบานประตูไม้สัก 4 บานนอกนั้นเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการแปรรูปไม้และทำสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว โดยเฉพาะพบแท่นซอยและแท่นเจาะติดตั้งไว้กับพื้นรวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ อีกหลายรายการตามฟ้อง กับพบร่องรอยขี้เลื่อยขี้กบทั้งเก่าและใหม่ในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย แสดงว่าเป็นสถานที่จัดขึ้นไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้โดยเฉพาะ จึงเป็นโรงงานแปรรูปไม้ตามความหมายแห่งบทนิยามดังกล่าวข้างต้น จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีความผิดตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ฐานแปรรูปไม้ ฐานมีไว้แปรรูปกระทงละ 10,000 บาท และฐานมีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าปรับ 6,000 บาท ลดโทษฐานแปรรูปไม้ มีไม้แปรรูปและมีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกึ่งหนึ่ง คงปรับฐานแปรรูปไม้ ฐานมีไม้แปรรูปกระทงละ 5,000 บาท และฐานมีสิ่งประดิษฐ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าปรับ 3,000 บาท รวมปรับ 23,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30จ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2