แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ในชั้นฎีกา จำเลยรับแล้วว่า จำเลยเป็นบุตรของนาย ง.ส่วนข้อที่ว่านาย ง.เป็นบุคคลสัญชาติจีนหรือสัญชาติไทย จำเลยไม่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และยอมรับในคำฟ้องฎีกาว่า จำเลยมีบิดาเป็นคนสัญชาติจีน จึงต้องรับฟังว่าจำเลยมีบิดาเป็นคนต่างด้าว คำว่า “บิดา” ตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพ.ศ. 2482 มาตรา 20 และ มาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว หมายถึงบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายและบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช 2482 มาตรา 20 ทวิ, 65 ที่แก้ไขแล้วและให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนดเวลาแปดปี
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช 2482มาตรา 20 ทวิ, 65 ที่แก้ไขแล้ว จำคุก 4 เดือน และปรับ 800 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนดเวลาแปดปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาที่จะต้องพิจารณาตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จำเลยฎีกาว่าบิดามารดาของจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายง้วน แซ่เตียว หรือแซ่เตีย เพราะคำว่า”บิดา” ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482มาตรา 20 และมาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว จะต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ข้อโต้แย้งของจำเลยดังกล่าวนี้เห็นว่า ข้อเท็จจริงในชั้นฎีกาจำเลยรับแล้วว่า จำเลยเป็นบุตรของนายง้วน ส่วนข้อที่ว่า นายง้วนเป็นบุคคลสัญชาติจีนหรือสัญชาติไทย จำเลยไม่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และยอมรับในคำฟ้องฎีกาว่าจำเลยมีบิดาเป็นคนสัญชาติจีน จึงต้องรับฟังว่าจำเลยมีบิดาเป็นคนต่างด้าว
ส่วนคำว่า “บิดา” ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพ.ศ. 2482 มาตรา 20 และมาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว จะหมายถึงบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายสถานเดียวหรือไม่นั้น พิจารณาแล้ว เห็นว่าการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนั้น หาได้มุ่งถึงสถานะของบุคคลผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่เพียงฝ่ายเดียวเป็นสาระสำคัญไม่ แต่จะต้องคำนึงถึงเชื้อชาติตามความเป็นจริง วัยและประสบการณ์ตลอดจนความผูกพันต่อท้องถิ่นที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเกี่ยวข้องอยู่ด้วยในเขตเลือกตั้งประกอบกันดังที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กล่าวถึงลักษณะและคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ในมาตรา 20 และมาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ได้ตัวสมาชิกสภาเทศบาลที่เป็นบุคคลในท้องถิ่นซึ่งสามารถเข้ามามีสิทธิร่วมในการบริหารและพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้วจึงเห็นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลที่มีบิดาเป็นคนต่างด้าวจึงไม่จำต้องเป็นบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีต่างไปจากการพิจารณาถึงสัญชาติของบุคคลที่มีบิดาเป็นคนต่างด้าว และอาจถูกถอนสัญชาติไทยได้ในบางกรณี ซึ่งในกรณีนั้นบิดาจะต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นสถานะของบุคคลที่มีอยู่อย่างใดเป็นการเฉพาะตัว ไม่มีผลกระทบถึงประโยชน์ของชุมชนหรือท้องถิ่นดังเช่นสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล หากถือว่าบิดาในกรณีนี้จะต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นแล้วผลที่ตามมาจะแปลกไป กล่าวคือถ้าจำเลยมีบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นคนต่างด้าว และไม่มีคุณสมบัติทางการศึกษา ตามมาตรา 20 ทวิที่แก้ไขแล้ว จำเลยจะไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในทางเปรียบเทียบถ้าจำเลยมีบิดาไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคนต่างด้าว ไม่ว่าจะมีคุณสมบัติทางการศึกษาตามมาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้วหรือไม่จำเลยกลับมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะถือว่าจำเลยเป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิดตามมาตรา 20 ที่แก้ไขแล้ว เหตุผลดังกล่าวแล้วจึงเป็นข้อสนับสนุนว่า “บิดา” ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 20 และมาตรา 20 ทวิ ที่แก้ไขแล้วหมายถึงทั้งบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย และบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายและกระทำความผิดตามฟ้อง จึงชอบแล้ว…”
พิพากษายืน.