คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์มีใจความว่า ถนนตากสินที่เกิดเหตุมีผิวจราจรแคบพนักงานจราจรได้กำหนดให้รถ 4 ล้อเดินทางเดียว ส่วนรถ 2 ล้อและ 3 ล้อ แล่นสวนทางได้ และจอดรถทางด้านซ้ายได้ โดยปกติมีรถชนิดต่างๆ แล่นในถนนสายนี้คับคั่ง ฉะนั้น การที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ดับเพลิง รู้ดีถึงสภาพดังกล่าวของถนนสายนี้ได้ขับรถยนต์เพื่อไปทำการดับเพลิงสวนทางเดินรถที่กำหนดไว้ซึ่งจะต้องแล่นสวนทางกับรถอื่นๆ ที่อยู่คับคั่งในถนนที่มีผิวจราจรแคบทั้งๆ ที่มีทางสายอื่นไปถึงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้เช่นเดียวกันครั้นเมื่อรถติดกันแล่นไปไม่ได้ จำเลยกลับขับหลบเข้าไปในร้านขายยาจนชนคน ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ได้กล่าวถึงเหตุที่จำเลยได้กระทำโดยประมาทอย่างใดชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่สมบูรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ถนนในตลาดเทศบาลเมืองตากมีอยู่สองสายที่มีผิวจราจรแคบมีรถคับคั่ง และพนักงานจราจรได้กำหนดให้รถ ๔ ล้อเดินทางเดียว คือถนนตากสินจากวัดพร้าวถึงสามแยกซอยตากสิน ๑๓ ให้รถเดินจากทิศเหนือมาทิศใต้ และถนนมหาดไทยบำรุงจากซอยตากสิน ๑๓ ถึงสามแยกโรงแรมทวีศักดิ์ให้รถเดินจากทิศใต้ไปทิศเหนือ แต่ทางด้านซ้ายของถนนทั้งสองสายนี้ยังอนุญาตให้รถทุกชนิดจอดได้และอนุญาตให้รถ ๒ ล้อ และ ๓ ล้อ วิ่งสวนทางได้ เมื่อวันที่ ๑๑สิงหาคม ๒๕๑๓ เวลาประมาณ ๙.๓๐ นาฬิกา ได้เกิดเพลิงไหม้ที่ร้านซ่อมรถตากสินยนต์หน้าโรงแรมทวีศักดิ์ จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ดับเพลิงของเทศบาลเมืองตากรู้ดีถึงสภาพถนนทั้งสองสายดังกล่าว ได้ขับรถยนต์ดับเพลิงเพื่อไปทำการดับเพลิงด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งจำเลยในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และอาจใช้ความระมัดระวังนั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่โดยจำเลยควรขับรถไปตามถนนมหาดไทยบำรุงซึ่ง ให้รถเดินขึ้นทางเหนือทางเดียวไปถึงโรงแรมทวีศักดิ์ได้ในเวลาไม่เกิน ๕ นาที แต่จำเลยกลับขับรถไปตามถนนตากสินสวนทางที่กำหนดให้รถเดินทางเดียวจากเหนือลงมาใต้แล้วจำเลยได้ขับหลบรถยนต์ที่แล่นมาตามทางนั้นไปเฉี่ยวรถบรรทุกเล็กของนายเชาว์เสียหาย และเมื่อไม่มีทางจะแล่นไปได้เพราะมีรถอีกหลายคันแล่นตามกันมา จำเลยจึงขับรถหลบเข้าไปในร้านขายยาชำนิโอสถชนนางสาวแพนได้รับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง และชนนายสวัสดิ์ได้รับบาดแผลไม่ถึงเป็นอันตรายแก่กาย กับทำให้สิ่งของในร้านชำนิโอสถและในร้านลิ่มใช้เซ้ง ซึ่งอยู่ติดกันเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๐, ๒๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยประมาทอย่างไรเป็นเหตุให้ผู้เสียหายตาย จำเลยไม่อาจเข้าใจข้อหาได้พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวถึงเหตุที่จำเลยได้กระทำการประมาทเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘ แล้ว พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาว่าคำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด พอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องมีใจความว่า ถนนตากสินที่เกิดเหตุนั้นมีผิวจราจรแคบ พนักงานจราจรได้กำหนดให้รถ ๔ ล้อเดินทางเดียว ส่วนรถ ๒ ล้อและ ๓ ล้อ แล่นส่วนได้และจอดรถทางด้านซ้ายได้ โดยปกติมีรถชนิดต่าง ๆแล่นในถนนสายนี้คับคั่ง ฉะนั้น การที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ดับเพลิง รู้ดีถึงสภาพดังกล่าวของถนนสายนี้ ได้ขับรถยนต์เพื่อไปทำการดับเพลิงสวนทางเดินรถที่กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องแล่นสวนทางกับรถอื่น ๆ ที่มีอยู่คับคั่งในถนนที่มีผิวจราจรแคบ ทั้ง ๆ ที่มีทางสายอื่นไปถึงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้เช่นเดียวกัน ครั้นเมื่อรถติดกันแล่นไปไม่ได้จำเลยกลับขับหลบเข้าไปในร้านขายยา จนเกิดเหตุขึ้น ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ได้กล่าวถึงเหตุที่จำเลยได้กระทำโดยประมาทอย่างใดชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
พิพากษายืน

Share