คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลย แต่ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทยังเป็นมรดกของย่าจำเลยอยู่ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ดังนี้ ไม่เป็นการพิพากษานอกฟ้อง นอกประเด็นข้อต่อสู้ หากแต่เป็นการฟังข้อเท็จจริงในคดีว่าที่พิพาทเป็นมรดกของย่าจำเลย ซึ่งหมายความว่าศาลไม่ฟังว่าเป็นของโจทก์และไม่เป็นของจำเลย ดังโจทก์จำเลยโต้เถียงกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒,๓,๔ บุกรุกเข้าตัดจากในที่ดินของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยที่ ๑ สั่งให้ตัด ขอให้ห้ามและใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าที่พิพาทและจากที่ตัดเป็นของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
คู่ความตกลงพิพาทเรื่องที่ดินกันหมดทั้งแปลง โดยต่างอ้างกรรมสิทธิ์
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่พิพาทยังเป็นมรดกของนายจีบ จำเลยบางคนก็เป็นทายาทของนางจีล โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย พิพากษากลับยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยฎีกาว่า นางจีบยกที่พิพาทให้จำเลยที่ ๑ แล้ว ขอให้ยกฟ้องและสั่งว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๑
ศาลฎีกาเห็นว่า เดิมที่พิพาทเป็นของนายเป๋อ นายเป๋อตาย ที่พิพาทตกได้แก่นางจีบ ภริยา และทยาทอื่นๆ เมื่อนางจีบตายแล้วที่พิพาทเป็นมรดกได้แก่บุตรหลานของนางจีล ซึ่งต่างก็ได้ครอบครองร่วมกันมา การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นมรดกของนางจีบ ไม่เป็นการพิพากษานอกฟ้อง นอกประเด็นข้อต่อสู้ดังที่โจทก์โต้เถียง หากแต่เป็นการฟังข้อเท็จจริงในคดีว่าที่ดินเป็นมรดกของนางจีบ ซึ่งหมายความว่าศาลอุทธรณ์ไม่ฟังว่าเป็นของโจทก์ และไม่เป็นของจำเลยที่ ๑ ดังโจทก์จำเลยโต้เถียงกัน ส่วนข้อที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาขอให้สั่งว่าที่ดินนี้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยที่ ๑ นั้น จำเลยที่ ๑ มิได้ฟ้องแย้งไว้ และไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะสั่งเช่นนั้น
พิพากษายืน

Share