แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระบบการเก็บภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรให้เรียกเก้ปตามรายรับของประเภทการค้าเป็นสำคัญ และต้องเรียกเก็บเป็นเปอร์เซ็นต์จากรายรับของสถานการค้าด้วย
การที่โจทก์ประกอบการค้าข้าวโดยให้สำนักงานกลางในเขตเทศบาลเป็นผู้ตกลงขายและรับเงินราคาข้าวส่วนข้าวไปเอาที่ฉางนอกเขตเทศบาลนั้น ต้องจัดเป็นรายรับของสำนักงานกลางอันโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเพิ่มเพื่อเทศบาล ฉะนั้น ที่โจทก์แยกยื่นบัญชีขอชำระภาษีการค้าว่าเป็นรายรับของโรงสีหรือฉางข้าวอื่นๆ จึงไม่ถูกต้อง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2503)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบการค้า มีสถานการค้ารวม ๑๓ แห่ง ซึ่งโจทก์ได้แยกจดทะเบียนตามประมวลรัษฎากรการค้ารายใหญ่ๆ ของสถานการค้าแห่งอื่น โจทก์ให้สำนักกลางเป็นผู้ทำแทนเกี่ยวด้วยตกลงขายข้าวหรือสิ่งของและรับชำระราคาแทนแต่ส่งมอบข้าวและของที่ขาย ณ สถานการค้าแห่งอื่น เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ ๒ ได้เรียกให้สำนักงานกลางของโจทก์เสียภาษีบำรุงเทศบาล โจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ ๓ ๆ ได้ชี้ขาดให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ จึงขอให้ศาลพิพากษาว่า คำชี้ขาดของจำเลยที่ ๓ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำชี้ขาดและแสดงว่าโจทก์ไม่ต้องเสียภาษีตามที่จำเลยเรียกเก็บ
จำเลยให้การว่า การกระทำของสำนักงานกลางของโจทก์ไม่ใช่ทำแทนสาขา แต่เป็นรายรับจากการขายข้าวซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษี
ศาลชั้นต้นเห็นว่า สำนักงานกลางของโจทก์ในเขตเทศบาลเป็นผู้ทำการตกลงซื้อขายและรับเงินราคาข้าว ต้องถือว่าเป็นผู้ประกอบการค้า จึงมีหน้าที่ต้องชำระค่าภาษีบำรุงเทศบาล คำชี้ขาดของจำเลยชอบแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า บริษัทข้าวไทยจำกัด โจทก์ ซึ่งประกอบการค้าข้าวได้จดทะเบียนสถานการค้าไว้หลายแห่ง การตกลงขายข้าวและชำระเงินราคาข้าวได้กระทำกันที่สำนักงานกลางของโจทก์แล้วไปส่งมอบข้าวกันที่โรงสีและฉางข้าวของโจทก์ทั้ง ๕ แห่งนั้น ดังนี้ มีปัญหาว่า โจทก์จะต้องเสียภาษีเพิ่มเพื่อเทศบาลด้วยหรือไม่
ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ระบบการเก็บภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรให้เรียกเก็บตามรายรับของประเภทการค้าเป็นสำคัญ และต้องเรียกเก็บเป็นเปอร์เซ็นต์จากรายรับของสถานการค้า การค้าข้าวของโจทก์ตามวิธีการต้องถือว่าสำนักงานกลางเป็นผู้ทำการค้าข้าว ตกลงขายข้าว และรับเงินราคาข้าว จึงเป็นรายรับของสำนักงานกลางซึ่งเป็นสถานการค้าในเขตเทศบาล ส่วนการส่งมอบข้าวกันที่โรงสีหรือฉางข้าวนอกเขตเทศบาลนั้นไม่สำคัญ เพราะโรงสีหรือฉางข้าวนั้นๆ ไม่มีรายรับอะไรจากการขายข้าวดังกล่าว จึงถือไม่ได้ว่า เป็นการค้าข้าวของโรงสีหรือฉางข้าวนั้นๆ ฉะนั้นการที่โจทก์แยกยื่นบัญชีขอชำระภาษีการค้าว่าเป็นรายรับของโรงสีหรือฉางข้าวนั้นๆ จึงไม่ถูกต้อง และไม่เป็นเหตุให้โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มเพื่อเทศบาล การที่ศาลล่างชี้ขาดว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเพิ่มเพื่อเทศบาลตามที่จำเลยประเมินเรียกเก็บจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน