คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4152/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสโดยระบุด้วยว่าเอาหนังสือรับรองความเป็นโสดจากสถานทูตมาแสดงไม่ได้ ขอให้จำเลยทำหนังสือถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวโจทก์ไปที่สถานทูตเพื่อใช้ประกอบการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทย การที่จำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนออกหนังสือสอบถามให้และรอหนังสือรับรองจากสถานทูตประเทศที่โจทก์มีสัญชาติ เพื่อประกอบการพิจารณาว่าโจทก์เป็นโสดไม่ต้องห้ามสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1452 นั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิเสธไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสให้แก่โจทก์ กรณีจึงยังไม่มีการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับนางสาวบัว
จำเลยให้การว่า จำเลยยังไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยจดทะเบียนสมรสให้แก่โจทก์กับนางสาวบัว
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์เป็นคนสัญชาติอิตาเลียนไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสโดยระบุด้วยว่าเอาหนังสือรับรองความเป็นโสดจากสถานทูตมาแสดงไม่ได้ ขอให้จำเลยทำหนังสือถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวโจทก์ไปที่สถานทูตเพื่อใช้ประกอบการจดทะเบียนสมรส จำเลยออกหนังสือให้โดยโจทก์รับหนังสือนั้นไปติดต่อกับสถานทูตเอง แล้วจำเลยไม่ได้รับการติดต่อทั้งจากโจทก์และสถานทูตเชื่อว่าจำเลยยังไม่ได้พิจารณาสั่งคำร้องขอของโจทก์ ประกอบกับการที่จำเลยรอหนังสือรับรองความเป็นโสดของโจทก์จากสถานทูตก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานว่า โจทก์เป็นโสดไม่ต้องห้ามสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๕๒ อันเป็นเงื่อนไขประการหนึ่งแห่งการสมรส ฉะนั้นการที่จำเลยกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงอันเป็นเงื่อนไขแห่งการสมรสและต้องใช้เวลาบ้าง จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการปฏิเสธการขอจดทะเบียนสมรส พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักและเหตุผลยิ่งกว่าของโจทก์ ฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ปฏิเสธการขอจดทะเบียนสมรสของโจทก์ดังฟ้อง กรณียังไม่มีการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share