คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยจำหน่ายน้ำมันก๊าศในระหว่างที่ใบอนุญาตให้จำหน่ายสิ้นอายุแล้ว และมิได้ต่อใบอายุเมื่อโจทก์ไม่ได้สืบว่าน้ำมันก๊าศเป็นน้ำมันประเภทไหนและมีปริมาณเท่าใดแล้ว คดีก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เพียงแต่ปรากฎว่าจำเลยจำหน่ายน้ำมันก๊าศเมื่อใบอนุญาตให้จำหน่ายสิ้นอายุแล้วจะให้สันนิษฐานว่าได้ทำการจำหน่ายมีปริมาณถึงขีดที่ต้องรับอนุญาตนั้นไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้จำหน่ายน้ำมันก๊าศและต่อมาใบอนุญาตนั้นสิ้นอายุแล้ว จำเลยก็ยังทำการจำหน่ายตลอดมา โดยมิได้ต่อใบอนุญาตนั้น ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๗๔ ม.๔๘,๕๒,๕๓
จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๗๔ ม.๔๘
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ได้ฟ้องว่า จำหน่ายขาย และฟ้องไม่ปรากฎว่าจำเลยมีน้ำมันก๊าดเท่าไร ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเกินกว่าจำนวนที่ไม่ต้องรับใบอนุญาต จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะลงโทษจำเลยตามข้อหานี้ได้จะต้องปรากฎว่า น้ำมันก๊าดนั้นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใดตามที่ได้แบ่งไว้เป็น ๓ จำพวกใน ม.๔ แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงและต้องปรากฎด้วยว่ามีปริมาณเกินกว่าจำนวนดังบัญญัติไว้ใน ม.๖,๑๗,๑๘ และ ๓๐ โจทก์มิได้นำสืบว่าน้ำมันก๊าดนี้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใด มีปริมาณเท่าใด จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ฎีกาโจทก์ว่าเมื่อใบอนุญาตของจำเลยสิ้นอายุแล้วก็ต้องถือว่า จำเลยเก็บและจำหน่ายมีปริมาณถึงขีดที่จะต้องรับอนุญาตนั้นเป็นความสันนิษฐาน เอาเองไม่แน่นอน จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกฟ้องโจทก์

Share