คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นการประวิงความ
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปสืบพะยานต่อไป แล้วพิพากษาใหม่นั้น เมื่อมีฎีกาก็ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินที่ตกลงขายและเรียกค่าทรากตึก
เมื่อสืบพะยานโจทก์แล้ว นัดสืบพะยานจำเลยครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๔๘๘ ทนายจำเลยแถลงว่าจำเลยป่วยขอเลื่อน ฝ่ายโจทก์คัดค้านว่า ไม่มีใบรับรองของแพทย์มาแสดง ทนายจำเลยแถลงรับรองต่อศาลว่าถ้านัดหน้าจำเลยมาไม่ได้ ทนายจะแถลงก่อนวันนัดให้ศาลไปเผชิญสืบ ศาลให้เลื่อนไปวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๔๔๘ ครั้นถึงวันนัดหมายจำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยป่วยไม่รู้จะหายเมื่อไร หากจะหายป่วยอีกนาน จะขอให้ศาลไปเผชิญสืบ ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อน แล้วเรียกพะยานอื่นเข้าสืบ พอศาลถามชื่อและที่อยู่ของพะยานปากแรกแล้ว ทนายแถลงว่าไม่ขอสืบพะยานปากนี้ ขอเลื่อนไปสืบพะยานอื่น
ศาลแพ่งเห็นว่า จำเลยประวิงความให้งดสืบพะยานแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการป่วยแล้ว เห็นว่าไม่พอฟังว่าจำเลยประวิงความ จึงให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาใหม่ต่อไป
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นการประวิงความศาลแพ่งเรียกค่าขึ้นศาลผู้ฎีกาตามจำนวนทุนทรัพย์เป็นการชอบแล้ว

Share