คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินมือเปล่าที่มีเจ้าของครอบครองมาฝ่ายเดียวนั้น เจ้าของย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิได้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ ครอบครองแม้จะได้ขอออกโฉนดทับที่เขา ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะจะจดทะเบียนสิทธิได้ ฉะนั้นแม้จะได้โฉนดมาแล้ว โอนขายได้ ทั้งผู้โอนและผู้รับโอนโดย +ทุจริต ต่างก็ไม่มีใครจะเอาที่ดินนั้นเป็นสิทธิได้./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ของโจทก์ และสมคบกันกับเจ้าพนักงานทำหนังสือสำคัญผิดความจริง จึงขอให้ทำลายหนังสือ สำคัญ ซึ่งเจ้าพนักงานทำให้แก่จำเลย และขอให้ขับไล่
จำเลยต่อสู้ว่านายโต๊ะ นายแฉ่งจำเลย ครอบครองที่พิพาทมา ๓๐ ปี แล้วขอให้เจ้าหน้าที่ออกโฉนดให้ คือโฉนดที่ ๑๒๔๔๐ แล้วต่อมานายตันจำเลยซื้อที่โฉนดนี้จากนางแฉ่งโดยสุจริต จึงฟ้องแย้งให้ขับไล่โจทก์ด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่หมาย ๒ เป็นของนายสุดโจทก์ ที่หมาย ๓ เป็นของนายไหวโจทก์คำขออื่นให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ที่เป็นของนายตัน จำเลย ให้ขับไล่โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อข้อเท็จจริงว่าที่หมาย ๒ เป็นของนายสุด ที่หมาย ๓ เป็นของนายไหว คนทั้งสองครอบครองมาฝ่ายเดียว
นางแฉ่งไม่ได้ครอบครอง แต่ได้ใช้อุบายขอโฉนดทับที่ของนายสุดนายไหว
เมื่อเป็นเช่นนี้ การจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับที่หมาย ๒ หมาย ๓ นายสุดนายไหวอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิได้ ส่วนนางแฉ่งไม่ได้อยู่ในฐานะเช่นนั้นที่เป็นของผู้อื่น นางแฉ่งขอออกโฉนดทับ แล้วก็โอนขายไปเช่นนี้ ทั้งผู้โอนและ ผู้รับโอนไม่มีผู้ใดจะเอาที่ดินได้สำเร็จ
จึงพิพากษาแก้ให้ที่หมาย ๒ – ๓ เป็นของนายสุด นายไหว โจทก์ โฉนดที่ออกทับที่หมาย ๒ – ๓ ใช้ไม่ได้ คำขออื่นให้ยก.

Share