แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ที่ได้รับใบเหยียบย่ำจากเจ้าพนักงานแล้วย่อมมีสิทธิที่จะหวงห้ามมิให้ผู้อื่นเข้าไปแย่งทำประโยชน์ในที่ ๆ ได้จับจองไว้ได้ แม้ว่าผู้จับจองนั้นจะยังไม่มีสิทธิครอบครองเลยก็ตามที ทั้งนี้ภายในกำหนดเวลา 2 ปี ตามที่ ก.ม.กำหนดให้ผู้จับจองต้องหาประโยชน์ในที่ดินนั้น และผู้ใดจะอ้างอายุความหนึ่งปีเรื่องการแบ่งการครอบครองตาม ป.พ.พ.ม. 1375 มาใช้ยันกับผู้ได้รับใบเหยียบย่ำภายในกำหนดเวลา 2 ปีนั้นก็ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ามีที่ดินแปลงหนึ่ง บางส่วนเป็นที่รกร้างโจทก์ได้ขอจับจองได้รับใบเหยียบย่ำแล้วบางส่วน ได้รับโอนมาจากผู้อื่นซึ่งโจทก์ได้โก่นสร้างครอบครองทำประโยชน์จดทะเบียนไว้ต่อคณะกรรมการอำเภอปากพยูนแล้ว จำเลยกับบริวาณบุกรุกเข้ามาหารั้วและปลูกต้นไม้เป็นเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่เศษ ขอให้ห้ามและให้รื้อถนนรั้วออกไป
จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าจำเลยครอบครองมา ๓ ปีแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ได้ทำประโยชน์ครอบครองมาก่อนจำเลยแต่จำเลยแบ่งการครอบครองมากว่า ๑ ปี แล้วโจทก์จึงฟ้อง คดีจึงขาดอายุความ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับห้าม่จำเลยเกี่ยวข้องในที่พิพาทและรื้อรั้วไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่ดินตอนที่โจทก์ได้รับในเหยียบย่ำแล้วนั้นก่อนนั้นเป็นที่รกร้าง เจ้าพนักงานออกใบเหยียบย่ำให้โจทก์ตั้งแต่วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๔๙๔ ให้สิทธิโจทก์ทำประโยชน์ใน ๒ ปี ตาม พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๗๙ ม.๙ จำเลยบุกรุกเมื่อเดือนกันยายน ๒๔๙๔ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๙๕ ภายใน ๒ ปี ซึ่ง ก.ม.ที่ดินให้สิทธิโจทก์ที่จะหวงห้ามผู้อื่น จำเลยจะอ้างอายุความแย่งการครอบครองมาใช้ในเรื่องเช่นนี้ไม่ได้ ส่วนที่พิพาทนอกใบเหยียบย่ำนั้น จำเลยเพิ่งบุกรุกเมื่อเดือน กรกฎาคม ๒๔๙๕ ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์