แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายจำเลยมาศาลภายหลังที่ศาลได้ทำการชี้สองสถานและกำหนดวันเวลานัดสืบพยานโจทก์โดยทนายจำเลยมิได้ ตรวจดูรายงานกระบวนพิจารณาเพียงแต่สอบถามวันเวลานัดสืบพยานโจทก์จากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์จึงเป็นความ ประมาทเลินเล่อของทนายจำเลย ต้องถือว่าจำเลยทราบกระบวนพิจารณาและวันนัดสืบพยานโจทก์ของศาลแล้วตาม ป.วิ.พ. มาตรา 183วรรคสอง เมื่อจำเลยไม่มาศาลตามกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยจึงขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ จำเลยขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๑๕๕,๗๕๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม
จำเลยยื่นคำร้องว่า ในวันนัดชี้สองสถาน ทนายจำเลยมาศาลตามนัดแต่เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของปีมีรถจำนวนมากหาที่จอดรถไม่ได้ต้องเสียเวลาไป ทนายจำเลยไปถึงห้องพิจารณาภายหลังที่ศาลชั้นต้นได้ทำการชี้สองสถานไปแล้ว จึงสอบถามเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์เพื่อขอดูสำนวนแต่ปรากฏว่าสำนวนอยู่ที่ศาลและสอบถามวันนัด เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์บอกวันเวลานัดสืบพยานโจทก์แล้วเมื่อถึงวันนัด ทนายจำเลยมาศาลและเข้าไปในห้องพิจารณาเวลา ๑๓ นาฬิกา และรออยู่จนถึงเวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกาศาลได้ทำการพิจารณาคดีอื่นไป ทนายจำเลยจึงสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าศาลนัดพิจารณาคดีในตอนเช้าและมีคำสั่งให้จำเลยขาดนัดพิจารณา ดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวและมีคำพิพากษาแล้วจำเลยไม่ได้จงใจหรือเจตนาขาดนัดพิจารณา ขอให้มีคำสั่งพิจารณาคดีใหม่
โจทก์คัดค้านว่า การจดเวลานัดสืบพยานโจทก์ผิด เป็นความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลย ทั้งไม่มีเหตุสมควรที่ทนายจำเลยมาศาลไม่ได้โดยความจำเป็น ถือได้ว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วให้งดไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ทนายจำเลยมาศาลในวันนัดชี้สองสถานแม้จะมาช้าทนายจำเลยก็น่าจะได้ขอตรวจดูสำนวนว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์วันเวลาอะไรให้แน่ชัด แต่กลับไม่กระทำจึงเป็นความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลยประการหนึ่ง และตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๘๓ วรรคสองซึ่งแก้ไขใหม่ก็บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่าให้คู่ความมาศาลในวันชี้สองสถานถ้าคู่ความฝ่ายใดไม่มาศาลให้ถือว่าทราบกระบวนพิจารณาในวันนั้นแล้วดังนั้น เมื่อศาลได้กำหนดวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ศาลทำการชี้สองสถานว่า ให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒เวลา ๙ นาฬิกา ต้องถือว่าจำเลยทราบวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ของศาลแล้วเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ตามที่ศาลกำหนด จำเลยจึงขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ จำเลยจะอ้างว่าฟังเวลาจากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ผิดไปหาได้ไม่
พิพากษายืน.