แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจุดเผารถยนต์ของผู้อื่นซึ่งมีคนนอนอยู่เป็นเหตุให้รถนั้นเสียหาย และไฟไหม้คนที่นอนในรถนั้นตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 185 และ 187 ตอน 2 อันบัญญัติให้ระวางโทษตามมาตรา 186 ตอนท้าย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2475 มาตรา 4-5 อันเป็นความผิดหลายบท ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 187 ตอน 2 ประกอบด้วยมาตรา 186 ตอนท้ายซึ่งเป็นบทหนัก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจุดเผารถยนต์ของนายวิรับ โดยมีนายครื้นหรือดำนอนอยู่ในนั้นจำเลยางเพลิงจุดเผาดังกล่าวแล้ว โดยลักษณะอันน่ากลัวจะเป็นอันตรายแก่ผู้คนเคหะสถานบ้านเรือนและทรัพย์ของผู้อื่น โดยเจตนา เพลิงไหม้ส่วนประกอบรถยนต์เสียหาย ๑๕๐ บาทและเป็นเหตุให้นายครื้นถูกเพลิงไหม้ตายเพราะพิษเพลิงไหม้นั้น ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริง พิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๘๗ ประกอบด้วยมาตรา ๑๘๖ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๔,๕ ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฉะเพาะบทความผิดว่าจำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๘๕ และมาตรา ๑๘๗ ตอน ๒อันบัญญัติให้ระวางโทษตามมาตรา ๑๘๖ ตอนท้ายซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา๔,๕ อันเป็นความผิดหลายบท ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๘๗ ตอน ๒ ประกอบด้วยมาตรา ๑๘๖ ตอนท้ายซึ่งเป็นบทหนัก นอกจากแก้ไขนี้คงยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลทั้งสองวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงลงโทษ จำเลยชอบแล้ว พิพากษายืน